พระสุตตันตปิฎกไทย: 17/259/501 502 503
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค
๓. วิญญาณสูตร
ว่าด้วยอุปกิเลสแห่งจิต
[๕๐๑] พระนครสาวัตถี. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความกำหนัดด้วยอำนาจความพอใจใน
จักขุวิญญาณ นี้เป็นอุปกิเลสแห่งจิต ความกำหนัดด้วยอำนาจความพอใจในโสตวิญญาณ ฯลฯ
ในฆานวิญญาณ ฯลฯ ในชิวหาวิญญาณ ฯลฯ ในกายวิญญาณ ฯลฯ ในมโนวิญญาณ นี้เป็น
อุปกิเลสแห่งจิต. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อใดแล ภิกษุละอุปกิเลสแห่งจิตในฐานะ ๖ นี้ได้ เมื่อนั้น
จิตของเธอย่อมเป็นจิตน้อมไปในเนกขัมมะ อันเนกขัมมะอบรมแล้ว ควรแก่การงาน ปรากฏใน
ธรรมที่จะพึงทำให้แจ้งด้วยอภิญญา.
จบ สูตรที่ ๓.
[** พระสูตรด้านบนข้อ ๕๐๑ ในภาษาบาลีไม่มี ทำให้ข้อตั้งแต่ ๕๐๒ - ๖๑๒
เมื่อเทียบกับในภาษาบาลี จึงผิดกันอยู่หนึ่งข้อ ตัวอย่างเช่น ภาษาไทย ข้อ
๕๐๒ ภาษาบาลีไทยจะเป็นข้อ ๕๐๑ จนถึงข้อสุดท้าย ภาษาไทยข้อ ๖๑๒
ภาษาบาลีไทยจะเป็นข้อ ๖๑๑ จึงฝากไว้ให้ผู้รู้ช่วยวินิจฉัย**]
๔. ผัสสสูตร
ว่าด้วยอุปกิเลสแห่งจิต
[๕๐๒] พระนครสาวัตถี. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความกำหนัดด้วยอำนาจความพอใจใน
จักขุสัมผัส นี้เป็นอุปกิเลสแห่งจิต ความกำหนัดด้วยอำนาจความพอใจในโสตสัมผัส ฯลฯ
ในฆานสัมผัส ฯลฯ ในชิวหาสัมผัส ฯลฯ ในกายสัมผัส ฯลฯ ในมโนสัมผัส นี้เป็นอุปกิเลส
แห่งจิต. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อใดแล ภิกษุละกิเลสแห่งจิตในฐานะ ๖ นี้ได้ เมื่อนั้น จิตของ
เธอย่อมเป็นจิตน้อมไปในเนกขัมมะ อันเนกขัมมะอบรมแล้ว ควรแก่การงาน ปรากฏในธรรมที่
จะพึงทำให้แจ้งด้วยอภิญญา.
จบ สูตรที่ ๔.
๕. เวทนาสูตร
ว่าด้วยอุปกิเลสแห่งจิต
[๕๐๓] พระนครสาวัตถี. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความกำหนัดด้วยอำนาจความพอใจใน
จักขุสัมผัสสชาเวทนา ฯลฯ ในโสตสัมผัสสชาเวทนา ฯลฯ ในฆานสัมผัสสชาเวทนา ฯลฯ ใน