พระสุตตันตปิฎกไทย: 25/258/296      
      สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
      
     
 
    
        
          
            พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระคาถาตอบว่า
	เราจักไม่เข้าถึงการนอนในครรภ์อีก เหมือนโคตัดเชือกสำหรับผูกขาด
	แล้ว เหมือนช้างทำลายเถากระพังโหมได้แล้วฉะนั้น แน่ะฝน หาก
	ว่าท่านปรารถนาก็เชิญตกลงมาเถิด ฯฝนได้ตกเต็มทั้งที่ลุ่ม ทั้งที่ดอน
	ในขณะนั้นเอง นายธนิยะคนเลี้ยงโคได้ยินเสียงฝนตกอยู่ ได้กราบทูล
	เนื้อความนี้ว่าเป็นลาภของข้าพระองค์ไม่น้อยหนอ ที่ข้าพระองค์ได้เห็น
	พระผู้มีพระภาค ข้าแต่พระองค์ผู้มีจักษุ ข้าพระองค์ขอถึงพระองค์ว่าเป็น
	สรณะ ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นมหามุนี ขอพระองค์ทรงเป็นพระศาสดา
	ของข้าพระองค์ ทั้งภริยาทั้งข้าพระองค์เป็นผู้เชื่อฟัง ประพฤติพรหมจรรย์
	ในพระสุคตข้าพระองค์เป็นผู้ถึงฝั่งแห่งชาติและมรณะจะเป็นผู้กระทำ
	ซึ่งที่สุดแห่งทุกข์ได้ ฯ
มารผู้มีบาปได้กล่าวคาถาว่า
	คนย่อมเพลิดเพลินเพราะอุปธิทั้งหลาย เปรียบเหมือนบุคคลผู้มีบุตร
	ย่อมเพลิดเพลินเพราะบุตร บุคคลมีโคย่อมเพลิดเพลินเพราะโค ฉะนั้น
	คนผู้ไม่มีอุปธิ ย่อมไม่เพลิดเพลินเลย ฯ
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระคาถาตอบว่า
	คนย่อมเศร้าโศกเพราะอุปธิทั้งหลาย เปรียบเหมือนบุคคลผู้มีบุตร ย่อม
	เศร้าโศกเพราะบุตร บุคคลผู้มีโค ย่อมเศร้าโศกเพราะโค ฉะนั้น คน
	ผู้ไม่มีอุปธิ ย่อมไม่เศร้าโศกเลย ฯ
	จบธนิยสูตรที่ ๒
	ขัคควิสาณสูตรที่ ๓
 [๒๙๖] บุคคลวางอาชญาในสัตว์ทั้งปวงแล้ว ไม่เบียดเบียนบรรดาสัตว์เหล่านั้น
	แม้ผู้ใดผู้หนึ่งให้ลำบาก ไม่พึงปรารถนาบุตรจะพึงปรารถนาสหายแต่ที่
	ไหน พึงเที่ยวไปผู้เดียวเหมือนนอแรด ฉะนั้น ความเยื่อใยย่อมมีแก่