พระสุตตันตปิฎกไทย: 22/258/272 273
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
ปฐมปัณณาสก์
อาหุเนยยวรรคที่ ๑
๑. อาหุเนยยสูตรที่ ๑
[๒๗๒] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณ
ฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้วพระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุ
ทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการย่อมเป็นผู้ควรของคำนับ ควรของต้อนรับ ควรของ
ทำบุญ ควรกระทำอัญชลีเป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน
คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เห็นรูปด้วยจักษุแล้ว ไม่ดีใจ ไม่เสียใจ มีอุเบกขา มีสติสัมปชัญญะ
อยู่ ฟังเสียงด้วยหู ... สูดกลิ่นด้วยจมูก ... ลิ้มรสด้วยลิ้น ... ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยกาย ... รู้แจ้ง
ธรรมารมณ์ด้วยใจแล้ว ไม่ดีใจ ไม่เสียใจ มีอุเบกขามีสติสัมปชัญญะอยู่ ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการนี้แลย่อมเป็นผู้ควรของคำนับ ควรของต้อนรับ ควรของ
ทำบุญ ควรกระทำอัญชลีเป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า พระผู้มีพระภาคได้ตรัส
ไวยากรณภาษิตนี้จบลงแล้ว ภิกษุเหล่านั้นดีใจ ชื่นชมภาษิตของพระผู้มีพระภาค ฯ
จบสูตรที่ ๑
๒. อาหุเนยยสูตรที่ ๒
[๒๗๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการย่อมเป็นผู้ควรของ
ต้อนรับ ฯลฯ เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ธรรม๖ ประการเป็นไฉน คือ ภิกษุ
ในธรรมวินัยนี้ ย่อมแสดงฤทธิ์ได้หลายประการคือ คนเดียวเป็นหลายคนก็ได้ หลายคนเป็น
คนเดียวก็ได้ ทำให้ปรากฏก็ได้ทำให้หายไปก็ได้ ทะลุฝากำแพงภูเขาไปได้ไม่ติดขัดเหมือนไปใน