พระสุตตันตปิฎกไทย: 20/257/558

สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
เล่ม 20
หน้า 257
ฆ่าสัตว์ ฯลฯ พูดเพ้อเจ้อ ดูกรภิกษุทั้งหลายนี้เรียกว่า ศีลวิบัติ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็จิตต วิบัติเป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้มักโลภ มีจิตพยาบาท ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้ เรียกว่า จิตตวิบัติ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ทิฐิวิบัติเป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็น มิจฉาทิฐิ มีความเห็นวิปริตว่า ทานที่ให้แล้วไม่มีผล ยัญที่บูชาแล้วไม่มีผล ฯลฯ สมณพราหมณ์ ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ทำโลกนี้และโลกหน้าให้แจ้งชัดด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว สอนหมู่สัตว์ ให้รู้ตาม ไม่มีในโลก ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่า ทิฐิวิบัติ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะศีลวิบัติ เป็นเหตุ ... เพราะจิตตวิบัติเป็นเหตุ ... หรือเพราะทิฐิวิบัติเป็นเหตุ สัตว์ทั้งหลายเมื่อแตกกาย ตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติวินิบาต นรก ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนแก้วมณีหกเหลี่ยม ถูกโยนขึ้นเบื้องสูง กลับมาตั้งอยู่จะโดยที่ใดๆ ต้องกลับมาตั้งอยู่ได้ด้วยดี แม้ฉันใด ฉันนั้น เหมือนกันแล ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะศีลวิบัติเป็นเหตุ ... เพราะจิตตวิบัติเป็นเหตุ ... หรือ เพราะทิฐิวิบัติเป็นเหตุ สัตว์ทั้งหลายเมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ดูกรภิกษุทั้งหลาย วิบัติ ๓ อย่างนี้แล ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัมปทา ๓ อย่างนี้ ๓ อย่างเป็นไฉน คือ ศีลสัมปทา ๑ จิตต สัมปทา ๑ ทิฏฐิสัมปทา ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ศีลสัมปทาเป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ ฯลฯ เว้นขาดจากคำเพ้อเจ้อ ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่า ศีลสัมปทา ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็จิตตสัมปทาเป็นไฉนบุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ไม่มักโลภ ไม่มีจิต พยาบาท ดูกรภิกษุทั้งหลายนี้เรียกว่า จิตตสัมปทา ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ทิฏฐิสัมปทาเป็น ไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นสัมมาทิฐิ มีความเห็นไม่วิปริตว่า ทานที่ให้แล้วมีผล ฯลฯ สมณพราหมณ์ผู้ประพฤติดีประพฤติชอบ ทำโลกนี้และโลกหน้าให้แจ้งชัดด้วยปัญญาอันยิ่งเอง แล้ว สอนหมู่สัตว์ให้รู้ตามมีอยู่ในโลก ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่า ทิฏฐิสัมปทา ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เพราะศีลสัมปทาเป็นเหตุ ... เพราะจิตตสัมปทาเป็นเหตุ ... หรือเพราะทิฏฐิสัมปทา เป็นเหตุ สัตว์ทั้งหลายเมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนแก้วมณีหกเหลี่ยม ถูกโยนขึ้นไปเบื้องบน กลับมาตั้งอยู่จะโดยที่ใดๆ ต้องกลับ มาตั้งอยู่ได้ด้วยดี แม้ฉันใด ฉันนั้นเหมือนกันแล ภิกษุทั้งหลาย เพราะศีลสัมปทาเป็นเหตุ ... เพราะจิตตสัมปทาเป็นเหตุ ... หรือเพราะทิฏฐิสัมปทาเป็นเหตุ สัตว์ทั้งหลายเมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ดูกรภิกษุทั้งหลายสัมปทา ๓ อย่างนี้ ฯ