พระสุตตันตปิฎกไทย: 25/255/294
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
ละคราบเก่าที่คร่ำคร่าแล้ว ฉะนั้นภิกษุใดไม่แล่นเลยไป ไม่ล้าอยู่ ล่วง
กิเลสเป็นเครื่องให้เนิ่นช้านี้ได้หมดแล้ว ภิกษุนั้นชื่อว่าย่อมละฝั่งในและ
ฝั่งนอกเสียได้ เหมือนงูละคราบเก่าที่คร่ำคร่าแล้ว ฉะนั้นภิกษุใดรู้ว่า
ธรรมชาติมีขันธ์เป็นต้น ทั้งหมดนี้เป็นของแปรผันไม่แล่นเลยไป
ไม่ล้าอยู่ในโลก ภิกษุนั้นชื่อว่า ย่อมละซึ่งฝั่งในและฝั่งนอกเสียได้
เหมือนงูละคราบเก่าที่คร่ำคร่าแล้ว ฉะนั้น ภิกษุใดรู้ว่า ธรรมชาติมีขันธ์
เป็นต้นทั้งหมดนี้เป็นของแปรผัน ปราศจากความโลภ ไม่แล่นเลยไป
ไม่ล้าอยู่ในโลก ภิกษุนั้นชื่อว่าย่อมละซึ่งฝั่งในและฝั่งนอกเสียได้ เหมือน
งูละคราบเก่าที่คร่ำคร่าแล้ว ฉะนั้น ภิกษุใดรู้ว่า ธรรมชาติมีขันธ์เป็นต้น
ทั้งหมดนี้เป็นของแปรผันปราศจากราคะ ไม่แล่นเลยไป ไม่ล้าอยู่ใน
โลก ภิกษุนั้นชื่อว่าย่อมละซึ่งฝั่งในและฝั่งนอกเสียได้ เหมือนงูละ
คราบเก่าที่คร่ำคร่าแล้ว ฉะนั้น ภิกษุใดรู้ว่า ธรรมชาติมีขันธ์เป็นต้นทั้ง
หมดนี้เป็นของแปรผัน ปราศจากโทสะไม่แล่นเลยไป ไม่ล้าอยู่ในโลก
ภิกษุนั้นชื่อว่าย่อมละซึ่งฝั่งในและฝั่งนอกเสียได้ เหมือนงูละคราบเก่าที่
คร่ำคร่าแล้ว ฉะนั้น ภิกษุใดรู้ว่า ธรรมชาติมีขันธ์เป็นต้นทั้งหมดนี้
เป็นของแปรผัน ปราศจากโมหะ ไม่แล่นเลยไป ไม่ล้าอยู่ในโลก
ภิกษุนั้นชื่อว่าย่อมละซึ่งฝั่งในและฝั่งนอกเสียได้ เหมือนงูละคราบเก่าที่
คร่ำคร่าแล้วฉะนั้น ภิกษุใดไม่มีอนุสัยอะไรๆ ถอนอกุศลมูลได้แล้ว
ภิกษุนั้นชื่อว่าย่อมละฝั่งในและฝั่งนอกเสียได้ เหมือนงูละคราบเก่าที่
คร่ำคร่าแล้ว ฉะนั้น ภิกษุใดไม่มีกิเลสอันเกิดแต่ความกระวนกระวาย
อะไรๆ อันเป็นปัจจัยเพื่อมาสู่ฝั่งใน ภิกษุนั้นชื่อว่าย่อมละฝั่งในและ
ฝั่งนอกเสียได้ เหมือนงูละคราบเก่าที่คร่ำคร่าแล้ว ฉะนั้น ภิกษุใดไม่มี
กิเลสอันเกิดแต่ตัณหาดุจป่าอะไรๆ อันเป็นเหตุเพื่อความผูกพัน เพื่อ
ความเกิดภิกษุนั้นชื่อว่าย่อมละฝั่งในและฝั่งนอกเสียได้ เหมือนงูละ
คราบเก่าที่คร่ำคร่าแล้ว ฉะนั้น ภิกษุใดละนิวรณ์ ๕ ได้แล้วไม่มีทุกข์