พระสุตตันตปิฎกไทย: 30/251/666 667

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส
เล่ม 30
หน้า 251
ไม่เบียดเบียนสัตว์แม้ทั้งปวง ด้ายฝ่ามือ ... หรือเชือก เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ไม่เบียดเบียน สัตว์เหล่านั้นแม้แต่ผู้ใดผู้หนึ่ง.
[๖๖๖] ศัพท์ว่า น ในอุเทศว่า น ปุตฺตมิญฺเฉยฺย โต สหายํ ดังนี้ เป็นศัพท์ปฏิเสธ. บุตร ๔ จำพวก คือ บุตรที่เกิดแก่ตน ๑ บุตรที่เกิดในเขต ๑ บุตรที่เขาให้ ๑ บุตรที่ อยู่ในสำนัก ๑ ชื่อว่า บุตร. ความไปสบาย ความมาสบาย ความไปและความมาสบาย ความนั่งสบาย ความนอน สบาย ความพูดทักกันสบาย ความสนทนากันสบาย ความปราศรัยกันสบาย กับชนเหล่าใด ชนเหล่านั้นท่านกล่าวว่า สบาย ในคำว่า สหายํ. คำว่า ไม่พึงปรารถนาบุตร จักปรารถนาสหายแต่ไหน ความว่า ไม่พึงปรารถนา ไม่ พึงยินดี ไม่พึงรักใคร่ ไม่พึงชอบใจบุตร จักปรารถนายินดี รักใคร่ ชอบใจ คนที่มีไม่ตรีกัน มิตรที่เห็นกันมา มิตรที่คบกันมาหรือสหาย แต่ที่ไหน เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ไม่พึงปรารถนา บุตร จักปรารถนาสหายแต่ที่ไหน.
[๖๖๗] คำว่า ผู้เดียว ในอุเทศว่า เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป ดังนี้ ความว่า พระปัจเจกสัมพุทธเจ้านั้น ชื่อว่า ผู้เดียวโดยส่วนแห่งบรรพชา ชื่อว่า ผู้เดียวเพราะอรรถว่าไม่มี เพื่อนสอง เพราะอรรถว่าละตัณหา เพราะปราศจากราคะโดยส่วนเดียว เพราะปราศจากโทสะ โดยส่วนเดียว เพราะปราศจากโมหะโดยส่วนเดียว เพราะไม่มีกิเลสโดยส่วนเดียว เพราะไป ตามเอกายนมรรค เพราะตรัสรู้ปัจเจกสัมโพธิญาณอย่างยอดเยี่ยมแต่ผู้เดียว. พระปัจเจกสัมพุทธเจ้านั้น ชื่อว่า ผู้เดียวโดยส่วนแห่งบรรพชาอย่างไร? พระปัจเจก สัมพุทธเจ้านั้น ตัดกังวลในฆราวาส ตัดกังวลในบุตรและภรรยา ตัดกังวลในญาติ ตัดกังวล ในความสั่งสม ปลงผมและหนวดแล้ว ครองผ้ากาสายะ ออกบวชเป็นบรรพชิต เข้าถึงความ เป็นผู้ไม่มีกังวล เป็นผู้เดียวเที่ยวไป เที่ยวไปทั่ว เดินไป พักผ่อน รักษา บำรุง เยียวยา เพราะฉะนั้น พระปัจเจกสัมพุทธเจ้านั้น จึงชื่อว่า เป็นผู้เดียวโดยส่วนแห่งบรรพชาอย่างนี้. พระปัจเจกสัมพุทธเจ้านั้น ชื่อว่า ผู้เดียวเพราะอรรถว่าไม่มีเพื่อนสองอย่างไร? พระ ปัจเจกสัมพุทธเจ้านั้น เมื่อบวชแล้วอย่างนี้ เป็นผู้เดียวเสพอาศัยเสนาสนะ คือ ป่าและป่าชัฏ