พระสุตตันตปิฎกไทย: 23/25/25 26
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
สัญญาสูตร
[๒๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงอปริหานิยธรรม ๗ ประการ แก่เธอทั้งหลาย ฯลฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อปริหานิยธรรม ๗ ประการเป็นไฉน คือภิกษุทั้งหลายจักเจริญอนิจจสัญญา
อยู่เพียงใด ภิกษุทั้งหลายก็พึงหวังความเจริญได้แน่นอน ไม่พึงหวังความเสื่อมเลย เพียงนั้น
ภิกษุทั้งหลายจักเจริญอนัตตสัญญา ฯลฯ จักเจริญอสุภสัญญา ฯลฯ จักเจริญอาทีนวสัญญา ฯลฯ
จักเจริญปหานสัญญา ฯลฯ จักเจริญวิราคสัญญา ฯลฯ จักเจริญนิโรธสัญญาอยู่ เพียงใด ภิกษุ
ทั้งหลายก็พึงหวังความเจริญได้แน่นอน ไม่พึงหวังความเสื่อมเลย เพียงนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย
อปริหานิยธรรม ๗ ประการนี้ จักตั้งอยู่ในภิกษุทั้งหลาย และภิกษุทั้งหลายจักปรากฏอยู่ใน
อปริหานิยธรรม ๗ ประการนี้ เพียงใด ภิกษุทั้งหลาย ก็พึงหวังความเจริญได้แน่นอน ไม่พึงหวัง
ความเสื่อมเลย เพียงนั้น ฯลฯ
จบสูตรที่ ๗
เสขสูตร
[๒๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๗ ประการนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความเสื่อมแก่ภิกษุผู้
เสขะ ๗ ประการเป็นไฉน คือ ความเป็นผู้ชอบการงาน ๑ ความเป็นผู้ชอบคุย ๑ ความเป็น
ผู้ชอบหลับ ๑ ความเป็นผู้คลุกคลีด้วยหมู่คณะ ๑ความเป็นผู้ไม่คุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลาย ๑
ความเป็นผู้ไม่รู้จักประมาณในโภชนะ ๑ กิจที่สงฆ์จะพึงทำมีอยู่ในสงฆ์ ภิกษุไม่สำเหนียกในกิจ
นั้นอย่างนี้ว่าก็พระเถระผู้รัตตัญญู บวชมานาน เป็นผู้รับภาระ มีอยู่ในสงฆ์ ท่านเหล่านั้นจะ
รับผิดชอบด้วยกิจนี้ ดังนี้ ต้องขวนขวายด้วยตนเอง ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลายธรรม ๗ ประการนี้แล
ย่อมเป็นไปเพื่อความเสื่อมแก่ภิกษุผู้เสขะ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๗ ประการนี้ ย่อมเป็นไป
เพื่อความไม่เสื่อมแก่ภิกษุผู้เสขะ๗ ประการเป็นไฉน คือ ความเป็นผู้ไม่ชอบการงาน ๑ ความ
เป็นผู้ไม่ชอบคุย ๑ความเป็นผู้ไม่ชอบหลับ ๑ ความเป็นผู้ไม่ชอบคลุกคลีด้วยหมู่คณะ ๑ ความ