พระสุตตันตปิฎกไทย: 22/247/249
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
๙. สีวถิกาสูตร
[๒๔๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย โทษในป่าช้า ๕ ประการนี้ ๕ ประการเป็นไฉน คือ
เป็นที่ไม่สะอาด ๑ มีกลิ่นเหม็น ๑ มีภัยเฉพาะหน้า ๑ เป็นที่อยู่ของพวกมนุษย์ร้าย ๑ เป็นที่
รำพันทุกข์ของชนหมู่มาก ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย โทษในป่าช้า ๕ ประการนี้แล ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย โทษในบุคคลผู้เปรียบด้วยป่าช้า ๕ ประการนี้ ฉันนั้นเหมือนกัน
๕ ประการเป็นไฉน คือ บุคคลบางคนในโลกนี้ย่อมประกอบด้วยกายกรรมอันไม่สะอาด ด้วย
วจีกรรมอันไม่สะอาด ด้วยมโนกรรมอันไม่สะอาด เรากล่าวข้อนี้เพราะเขาเป็นผู้ไม่สะอาด ป่าช้า
นั้นเป็นที่ไม่สะอาด แม้ฉันใด เรากล่าวบุคคลนี้เปรียบฉันนั้น ฯ
กิติศัพท์ที่ชั่วของเขาผู้ประกอบด้วยกายกรรม อันไม่สะอาด ด้วยวจีกรรม อันไม่สะอาด
ด้วยมโนกรรมอันไม่สะอาด ย่อมฟุ้งไป เรากล่าวข้อนี้เพราะเขาเป็นผู้มีกลิ่นเหม็น ป่าช้ามีกลิ่น
เหม็นแม้ฉันใด เรากล่าวบุคคลนี้เปรียบฉันนั้น ฯ
เพื่อนพรหมจรรย์ผู้มีศีลเป็นที่รัก ย่อมเว้นไกลซึ่งบุคคลนั้นผู้ประกอบด้วยกายกรรมอัน
ไม่สะอาด ด้วยวจีกรรมอันไม่สะอาด ด้วยมโนกรรมอันไม่สะอาดเรากล่าวข้อนี้เพราะเขามีภัย
เฉพาะหน้า ป่าช้ามีภัยเฉพาะหน้า แม้ฉันใด เรากล่าวบุคคลนี้เปรียบฉันนั้น ฯ
เขาประกอบด้วยกายกรรมอันไม่สะอาด ด้วยวจีกรรมอันไม่สะอาด ด้วยมโนกรรมอัน
ไม่สะอาด ย่อมอยู่ร่วมกับบุคคลผู้เสมอกัน เรากล่าวข้อนี้เพราะเขาเป็นที่อยู่ของสิ่งร้าย ป่าช้าเป็นที่
อยู่ของอมนุษย์ร้าย แม้ฉันใด เรากล่าวบุคคลนี้เปรียบฉันนั้น ฯ
เพื่อนพรหมจรรย์ผู้มีศีลเป็นที่รัก เห็นเขาผู้ประกอบด้วยกายกรรมอันไม่สะอาด ด้วย
วจีกรรมอันไม่สะอาด ด้วยมโนกรรมอันไม่สะอาด แล้วย่อมรำพันทุกข์ว่า โอ เป็นทุกข์ของพวก
เราผู้อยู่ร่วมกับบุคคลเห็นปานนี้ เรากล่าวข้อนี้เพราะเขาเป็นที่รำพันทุกข์ ป่าช้าเป็นที่รำพันทุกข์
ของชนหมู่มาก แม้ฉันใด เรากล่าวบุคคลนี้เปรียบฉันนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย โทษในบุคคล
ผู้เปรียบด้วยป่าช้า ๕ ประการนี้แล ฯ
จบสูตรที่ ๙