พระสุตตันตปิฎกไทย: 20/247/546 547 548
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
สมณสูตร
[๕๔๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่งไม่ทราบชัดซึ่งคุณ
ของโลกโดยความเป็นคุณ ซึ่งโทษของโลกโดยความเป็นโทษและซึ่งอุบายเครื่องออกไปของ
โลกโดยความเป็นอุบายเครื่องออกไป ตามความเป็นจริง สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้น เราไม่
ยกย่องว่าเป็นสมณะในหมู่สมณะหรือว่าเป็นพราหมณ์ในหมู่พราหมณ์ และท่านเหล่านั้น หาทำ
ให้แจ้งซึ่งประโยชน์แห่งความเป็นสมณะ และประโยชน์แห่งความเป็นพราหมณ์ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง
ในปัจจุบันเข้าถึงอยู่ไม่ ส่วนสมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง ทราบชัดซึ่งคุณของโลกโดย
ความเป็นคุณ ซึ่งโทษของโลกโดยความเป็นโทษ และซึ่งอุบายเครื่องออกไปของโลกโดยความ
เป็นอุบายเครื่องออกไป ตามความเป็นจริง สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้น เรายกย่องว่าเป็นสมณะ
ในหมู่สมณะ หรือว่าเป็นพราหมณ์ในหมู่พราหมณ์ และท่านเหล่านั้นย่อมทำให้แจ้งซึ่งประโยชน์
แห่งความเป็นสมณะ และประโยชน์แห่งความเป็นพราหมณ์ ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบัน
เข้าถึงอยู่ ฯ
โรณสูตร
[๕๔๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย การขับร้อง คือ การร้องไห้ในวินัยของพระอริยเจ้า การ
ฟ้อนรำ คือ ความเป็นบ้าในวินัยของพระอริยเจ้า การหัวเราะจนเห็นฟันพร่ำเพรื่อ คือ ความ
เป็นเด็กในวินัยของพระอริยเจ้า เพราะเหตุนั้นแหละ จงละเสียโดยเด็ดขาดในการขับร้องฟ้อนรำ
เมื่อท่านทั้งหลายเบิกบานในธรรม ก็ควรแต่ยิ้มแย้ม ฯ
อติตตสูตร
[๕๔๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความอิ่มในการเสพสิ่ง ๓ อย่างไม่มี๓ อย่างเป็นไฉน
คือ ในการเสพความหลับ ๑ ในการดื่มสุราและเมรัย ๑ ในการเสพเมถุนธรรม ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ความอิ่มในการเสพสิ่ง ๓ อย่างนี้แลไม่มี ฯ