พระสุตตันตปิฎกไทย: 20/246/545

สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
เล่ม 20
หน้า 246
โทษของโลก เราได้พบโทษในโลกนั้นแล้วโทษในโลกมีประมาณเท่าใด เราได้เห็นโทษประมาณ เท่านั้นด้วยปัญญาแล้ว เราเที่ยวแสวงหาอุบายเป็นเครื่องออกไปของโลก ได้พบอุบายเป็นเครื่อง ออกไปในโลกนั้นแล้ว อุบายเป็นเครื่องออกไปในโลกมีประมาณเท่าใด เราได้เห็นอุบายเครื่อง ออกไปประมาณเท่านั้นด้วยปัญญาแล้ว ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เรายังไม่รู้คุณของโลกโดยเป็นคุณ ... บัดนี้ภพใหม่ไม่มี ฯ อัสสาทสูตร
[๕๔๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ถ้าคุณในโลกนี้จักไม่มีแล้วไซร้ สัตว์ทั้งหลายก็ไม่พึง กำหนัดในโลก แต่เพราะคุณในโลกมีอยู่ ฉะนั้น สัตว์ทั้งหลายจึงกำหนัดอยู่ในโลก ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย ก็ถ้าโทษในโลกนี้ไม่มีแล้วไซร้ สัตว์ทั้งหลายจะไม่พึงเบื่อหน่ายในโลก แต่เพราะโทษใน โลกมีอยู่ ฉะนั้น สัตว์ทั้งหลายจึงเบื่อหน่ายในโลก ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ถ้าอุบายเครื่องออกไป ในโลกนี้จักไม่มีแล้วไซร้ สัตว์ทั้งหลายก็ไม่พึงออกไปจากโลกได้ แต่เพราะอุบายเครื่องออกไป ในโลกมีอยู่ ฉะนั้น สัตว์ทั้งหลายจึงออกไปจากโลกได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายยังไม่รู้ ซึ่งคุณของโลกโดยความเป็นคุณ ซึ่งโทษของโลก ---โดยความเป็นโทษ และซึ่งอุบายเครื่องออกไป ของโลกโดยเป็นอุบายเครื่องออกไปตามความเป็นจริง เพียงใด สัตว์ทั้งหลายจะออกไป หลุดไป พ้นไปจากโลกพร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก จากหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณะ พราหมณ์ เทวดาและมนุษย์ มีใจปราศจากเขตแดนอยู่ ไม่ได้เพียงนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลายก็เมื่อใด สัตว์ ทั้งหลายรู้ซึ่งคุณของโลกโดยความเป็นคุณ ซึ่งโทษของโลกโดยความเป็นโทษ และซึ่งอุบาย เครื่องออกไปของโลกโดยความเป็นอุบายเครื่องออกไป ตามความเป็นจริง เมื่อนั้น สัตว์ทั้งหลาย ย่อมออกไป หลุดไป พ้นไปจากโลก พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก จากหมู่สัตว์ พร้อมทั้งสมณะพราหมณ์ เทวดาและมนุษย์ มีใจปราศจากเขตแดนอยู่ ฯ