พระสุตตันตปิฎกไทย: 23/242/163
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
เห็นนี้เป็นเครื่องครอบงำประการที่ ๒ คนหนึ่งมีอรูปสัญญาในภายใน เห็นรูปในภายนอก
ได้เล็กน้อย ทั้งมีผิวพรรณดี ทั้งมีผิวพรรณทราม ย่อมมีความสำคัญอย่างนี้ว่า เราครอบงำรูป
เหล่านั้นแล้วจึงรู้จึงเห็น นี้เป็นเหตุเครื่องครอบงำประการที่ ๓ คนหนึ่งมีอรูปสัญญาในภายใน
เห็นรูปในภายนอกได้ไม่มีประมาณทั้งมีผิวพรรณดี ทั้งมีผิวพรรณทราม ย่อมมีความสำคัญ
อย่างนี้ว่า เราครอบงำรูปเหล่านั้นแล้วจึงรู้จึงเห็น นี้เป็นเหตุเครื่องครอบงำประการที่ ๔ คนหนึ่ง
มีอรูปสัญญาในภายใน เห็นรูปในภายนอกเขียว มีสีเขียว รัศมีเขียว แสงสว่างเขียวย่อมมี
ความสำคัญอย่างนี้ว่า เราครอบงำรูปเหล่านั้นแล้วจึงรู้จึงเห็น นี้เป็นเหตุเครื่องครอบงำประการ
ที่ ๕ คนหนึ่งมีอรูปสัญญาในภายใน เห็นรูปในภายนอกเหลือง มีสีเหลือง รัศมีเหลือง แสง
สว่างเหลือง ย่อมมีความสำคัญอย่างนี้ว่าเราครอบงำรูปเหล่านั้นแล้วจึงรู้จึงเห็น นี้เป็นเหตุ
เครื่องครอบงำประการที่ ๖ คนหนึ่งมีอรูปสัญญาในภายใน เห็นรูปในภายนอกแดง มีสีแดง
รัศมีแดงแสงสว่างแดง ย่อมมีความสำคัญอย่างนี้ว่า เราครอบงำรูปเหล่านั้นแล้วจึงรู้จึงเห็น
นี้เป็นเหตุเครื่องครอบงำประการที่ ๗ คนหนึ่งมีอรูปสัญญาในภายใน เห็นรูปในภายนอกขาว มี
สีขาว รัศมีขาว แสงสว่างขาว ย่อมมีความสำคัญว่า เราครอบงำรูปเหล่านั้นแล้วจึงรู้จึงเห็น
นี้เป็นเหตุเครื่องครอบงำประการที่ ๘ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เหตุเป็นเครื่องครอบงำ ๘ ประการ
นี้แล ฯ
จบสูตรที่ ๑๒
วิโมกขสูตร
[๑๖๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย วิโมกข์ ๘ ประการนี้ ๘ ประการเป็นไฉน คือ บุคคล
ผู้มีรูป ย่อมเห็นรูปทั้งหลาย นี้เป็นวิโมกข์ ประการที่ ๑ คนหนึ่งมีอรูปสัญญาในภายใน ย่อมเห็น
รูปทั้งหลายในภายนอก นี้เป็นวิโมกข์ประการที่๒ คนที่น้อมใจว่า งาม นี้เป็นวิโมกข์ประการ
ที่ ๓ เพราะล่วงรูปสัญญาโดยประการทั้งปวง เพราะดับปฏิฆสัญญา เพราะไม่ใส่ใจถึงนานัตต