พระสุตตันตปิฎกไทย: 22/241/237

สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
เล่ม 22
หน้า 241
พิจารณาก่อนแล้วแสดงความไม่เลื่อมใสให้ปรากฏในที่อันควรเลื่อมใส ๑ ย่อมยังศรัทธาไทยให้ ตกไป ๑ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเจ้าอาวาสประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล เหมือนถูกนำมา เก็บไว้ในนรก ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเจ้าอาวาสประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ เหมือนถูกเชิญมาอยู่ ในสวรรค์ ๕ ประการเป็นไฉน คือใคร่ครวญพิจารณาก่อนแล้วกล่าวตำหนิผู้ควรตำหนิ ๑ ใคร่ ครวญพิจารณาก่อนแล้วกล่าวสรรเสริญผู้ควรสรรเสริญ ๑ใคร่ครวญพิจารณาก่อนแล้ว แสดง ความไม่เลื่อมใสให้ปรากฏในที่อันไม่ควรเลื่อมใส ๑ ใคร่ครวญพิจารณาก่อนแล้วแสดงความ เลื่อมใสให้ปรากฏในที่อันควรเลื่อมใส ๑ ย่อมไม่ยังศรัทธาไทยให้ตกไป ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเจ้าอาวาสประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล เหมือนถูกเชิญมาอยู่ในสวรรค์ ฯ จบสูตรที่ ๖ ๗. ยถาภตเคธสูตร
[๒๓๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเจ้าอาวาสประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ เหมือนถูก นำมาเก็บไว้ในนรก ๕ ประการเป็นไฉน คือไม่ใคร่ครวญ ไม่พิจารณาก่อนแล้วกล่าวสรรเสริญ ผู้ควรตำหนิ ๑ ไม่ใคร่ครวญ ไม่พิจารณาก่อนแล้วกล่าวตำหนิผู้ควรสรรเสริญ ๑ เป็นผู้ตระหนี่ อาวาส หวงแหนอาวาส ๑ เป็นผู้ตระหนี่สกุลหวงแหนสกุล ๑ ย่อมยังศรัทธาไทยให้ตกไป ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเจ้าอาวาสประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล เหมือนถูกนำมาเก็บไว้ใน นรก ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเจ้าอาวาสประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ เหมือนถูกเชิญมาอยู่ ในสวรรค์ ๕ ประการเป็นไฉน คือใคร่ครวญพิจารณาก่อนแล้วกล่าวตำหนิผู้ควรตำหนิ ๑ ใคร่ ครวญพิจารณาก่อนแล้วกล่าวสรรเสริญผู้ควรสรรเสริญ ๑เป็นผู้ไม่ตระหนี่อาวาส ไม่หวงแหน อาวาส ๑ เป็นผู้ไม่ตระหนี่สกุล ไม่หวงแหนสกุล ๑ ไม่ยังศรัทธาไทยให้ตกไป ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเจ้าอาวาสประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล เหมือนถูกเชิญมาอยู่ในสวรรค์ ฯ จบสูตรที่ ๗