พระสุตตันตปิฎกไทย: 23/239/161

สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
เล่ม 23
หน้า 239
เธอเจริญกระทำให้มากซึ่งสมาธินี้อย่างนี้แล้ว เมื่อนั้น เธอพึงเจริญสมาธินี้แม้มีวิตก มีวิจาร ... เธอพึงเจริญสมาธินี้แม้สหรคตด้วยอุเบกขา ดูกรภิกษุ เมื่อใด เธอเจริญสมาธินี้อย่างนี้ เจริญ ดีแล้ว เมื่อนั้น เธอพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เราจักพิจารณาเวทนาในเวทนาทั้งหลายอยู่ ฯลฯ พิจารณา จิตในจิตอยู่ ฯลฯ พิจารณาธรรมในธรรมทั้งหลายอยู่มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัด อภิชฌาและโทมนัสในโลกเสีย ดูกรภิกษุ เธอพึงศึกษาอย่างนี้แล ดูกรภิกษุ เมื่อใด เธอเจริญ กระทำให้มากซึ่งสมาธินี้อย่างนี้แล้ว เมื่อนั้น เธอพึงเจริญสมาธินี้แม้มีวิตก มีวิจาร พึงเจริญสมาธิ นี้แม้ไม่มีวิตก มีแต่วิจาร พึงเจริญสมาธินี้แม้ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร พึงเจริญสมาธินี้แม้มีปีติ พึง เจริญสมาธินี้แม้ไม่มีปีติ พึงเจริญสมาธินี้แม้สหรคตด้วยความสำราญ พึงเจริญสมาธินี้แม้สหรคต ด้วยอุเบกขา ดูกรภิกษุ เมื่อใดเธอเจริญสมาธินี้อย่างนี้ เจริญดีแล้ว เมื่อนั้น เธอจักเดินไป ทางใดๆ ก็จักเดินเป็นสุขในทางนั้นๆ ยืนอยู่ในที่ใดๆ ก็จักยืนเป็นสุขในที่นั้นๆ นั่งอยู่ในที่ใดๆ ก็จัก นั่งอยู่เป็นสุขในที่นั้นๆ นอนอยู่ที่ใดๆ ก็จักนอนเป็นสุขในที่นั้นๆ ฯ ครั้งนั้นแล ภิกษุรูปนั้น อันพระผู้มีพระภาคตรัสสอนด้วยพระโอวาทนี้แล้ว ลุกจาก อาสนะ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาค กระทำประทักษิณแล้วหลีกไป ภิกษุนั้นหลีกจากหมู่อยู่ผู้เดียว ไม่ประมาท มีความเพียร มีใจเด็ดเดี่ยวไม่นานนัก ก็กระทำให้แจงซึ่งที่สุด แห่งพรหมจรรย์ อันยอดเยี่ยม ที่กุลบุตรออกบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบต้องการนั้น ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ใน ปัจจุบันเข้าถึงอยู่ รู้ชัดว่าชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจ อื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี และภิกษุรูปนั้นได้เป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งในจำนวนพระอรหันต์ ทั้งหลาย ฯ จบสูตรที่ ๑๐ คยาสูตร
[๑๖๑] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ คยาสีสประเทศใกล้ฝั่งแม่น้ำคยา ณ ที่นั้นแลพระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฯลฯ พระผู้มีพระภาค ตรัสว่าดูกรภิกษุทั้งหลาย ก่อนแต่ตรัสรู้ ยังมิได้ตรัสรู้ ยังเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ เราจำได้แม้ ซึ่งโอภาส แต่ไม่เห็นรูปทั้งหลายเราจึงมีความคิดดังนี้ว่า ถ้าเราพึงจำได้แม้ซึ่งโอภาส และพึงเห็น รูปทั้งหลายด้วยอาการอย่างนี้ ญาณทัสสนะนี้ของเราก็จะพึงบริสุทธิ์กว่า ดูกรภิกษุทั้งหลายสมัย ต่อมา เรานั้นเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีใจเด็ดเดี่ยว ย่อมจำได้ซึ่งโอภาส และเห็นรูป