พระสุตตันตปิฎกไทย: 20/235/539
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
ทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๓ ประการก็ฉันนั้นเหมือนกัน ย่อมเป็นผู้ควรของคำนับ ฯลฯ
เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ธรรม ๓ ประการเป็นไฉน คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้
เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยวรรณะ ๑ เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยกำลัง ๑ เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยเชาวน์ ๑ ดูกรภิกษุ
ทั้งหลาย ก็ภิกษุเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยวรรณะอย่างไร ภิกษุในธรรมวินัยนี้เป็นผู้มีศีล ฯลฯ สมาทาน
ศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยวรรณะอย่างนี้แล ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยกำลังอย่างไร ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ปรารภความ
เพียร ฯลฯ ไม่ทอดทิ้งธุระในกุศลธรรมทั้งหลายอยู่ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้สมบูรณ์ด้วย
กำลังอย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยเชาวน์อย่างไร ภิกษุในธรรมวินัยนี้
ทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญา
อันยิ่งเองในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ ดูกรภิกษุ--ทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยเชาวน์อย่างนี้แล
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการนี้แล ย่อมเป็นผู้ควรของคำนับ ควรของ
ต้อนรับควรของทำบุญ ควรทำอัญชลี เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ฯ
นวสูตร
[๕๓๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผ้าเปลือกไม้แม้ยังใหม่ ก็เป็นของมีสีไม่สวย มีสัมผัสไม่
สบาย ทั้งมีราคาน้อย ผ้าเปลือกไม้แม้กลางเก่ากลางใหม่ก็เป็นของมีสีไม่สวย มีสัมผัสไม่สบาย
ทั้งมีราคาน้อย ผ้าเปลือกไม้เป็นของเก่าก็เป็นของมีสีไม่สวย มีสัมผัสไม่สบาย ทั้งมีราคาน้อย
มนุษย์ทั้งหลาย ย่อมทำผ้าเปลือกไม้ที่เก่าแล้วให้เป็นผ้าสำหรับเช็ดหม้อข้าว หรือทิ้งมันเสียที่
กองหยากเยื่อฉันใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกันแล ภิกษุแม้ยังใหม่ แต่เป็นคนทุศีล มี
ธรรมเลวทราม เราย่อมกล่าวเช่นนี้ เพราะภิกษุนั้นเป็นผู้มีชื่อเสียงไม่ดีดูกรภิกษุทั้งหลาย
บุคคลชนิดนี้เรากล่าวว่า มีอุปมาเหมือนกับผ้าเปลือกไม้ที่มีสีไม่สวยฉะนั้น ชนเหล่าใดคบหา
เข้าไปนั่งใกล้ ถือเอาเขาเป็นตัวอย่าง กิริยาที่คบหาเป็นต้นนั้น ย่อมเป็นไปเพื่อไม่เป็นประโยชน์
เพื่อทุกข์แก่ชนเหล่านั้นสิ้นกาลนาน เรากล่าวเช่นนี้ เพราะภิกษุนั้นเป็นผู้มีการติดต่อก่อให้เกิด
ทุกข์ ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลชนิดนี้เรากล่าวว่า มีอุปมาเหมือนกับผ้าเปลือกไม้ที่มีสัมผัสไม่