พระสุตตันตปิฎกไทย: 30/226/588 589 590
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส
ซึ่งพระผู้มีพระภาคผู้ตรัสรู้แล้ว ผู้ไม่กำเริบ มีเดชนับไม่ถ้วน มีญาณแตกฉาน มีพระจักษุเปิด
แล้ว ทรงฉลาดในประเภทแห่งปัญญา มีปฏิสัมภิทา ทรงบรรลุแล้ว ถึงเวสารัชชญาณ ๔ แล้ว
น้อมพระทัยไปในผลสมาบัติอันบริสุทธิ์ มีพระองค์ขาวผ่อง มีพระวาจามิได้เป็นสอง เป็นผู้คงที่
มีปฏิญาณอย่างนั้น เป็นผู้ไม่เล็กน้อย เป็นผู้ใหญ่ เป็นผู้มีธรรมลึก มีคุณอันใครๆ นับไม่ได้
มีคุณยากที่จะหยั่งถึง มีรัตนะมาก มีคุณเสมอด้วยสาคร ประกอบด้วยอุเบกขามีองค์ ๖ ไม่มี
ใครเปรียบปาน มีธรรมไพบูลย์ ประมาณมิได้ มีพระคุณเช่นนั้น ตรัสธรรมอันเลิศกว่าพวกที่
กล่าวกัน เช่นภูเขาสิเนรุเลิศกว่าภูเขาทั่วไป ครุฑเลิศกว่านกทั่วไป สีหมฤคเลิศกว่ามฤคทั่วไป
สมุทรเลิศกว่าห้วงน้ำทั่วไป เป็นพระพุทธชินะอันสูงสุด ฉันนั้นเหมือนกัน. เพราะฉะนั้น จึง
ชื่อว่า ข้าพระองค์ก็ฉันนั้น ละแล้วซึ่งพวกพราหมณ์ที่มีปัญญาน้อย อาศัยแล้วซึ่งพระองค์ เป็น
ดังว่าหงส์ อาศัยสระใหญ่ที่มีน้ำมาก ฉะนั้น. เพราะเหตุนั้น พระปิงคิยเถระจึงกล่าวว่า
นกละป่าเล็กแล้ว อาศัยป่าใหญ่ที่มีผลไม้มากอยู่ ฉันใด
ข้าพระองค์ก็ฉันนั้น ละแล้วซึ่งพวกพราหมณ์ที่มีปัญญาน้อย
อาศัยแล้วซึ่งพระองค์ เป็นดังว่าหงส์อาศัยสระใหญ่ ที่มี
น้ำมาก ฉะนั้น.
[๕๘๘] ในกาลก่อน (อื่นแก่ศาสนาของพระโคดม) อาจารย์เหล่าใด
พยากรณ์ว่า เรื่องนี้มีแล้วดังนี้ เรื่องนี้จักมีดังนี้ คำนั้น
ทั้งหมดเป็นคำกล่าวสืบๆ กันมา คำนั้นทั้งหมดนั้นเป็นเครื่อง
ยังความตรึกให้เจริญ.
[๕๘๙] คำว่า เย ในอุเทศว่า เย เม ปุพฺเพ วิยากํสุ ดังนี้ ความว่า พาวรีพราหมณ์
และพวกพราหมณ์อื่นซึ่งเป็นอาจารย์ของพาวรีพราหมณ์ พยากรณ์แล้ว คือ บอก ... ประกาศ
แล้วซึ่งทิฏฐิของตน ความควรของตน ความชอบใจของตน ลัทธิของตน ความประสงค์ของตน
อัธยาศัยของตน เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ... ในกาลก่อน ... อาจารย์เหล่าใดพยากรณ์แล้ว.
[๕๙๐] คำว่า อื่นแต่พระศาสนาของพระโคดม ความว่า ก่อนแต่ศาสนาของพระโคดม
คือ อื่นแต่ศาสนาของพระโคดม ก่อนกว่าศาสนาของพระโคดม กว่าศาสนาของพระพุทธเจ้า
กว่าศาสนาของพระชินะ กว่าศาสนาของพระตถาคต กว่าศาสนาของพระอรหันต์ เพราะฉะนั้น
จึงชื่อว่า อื่นแต่ศาสนาของพระโคดม.