พระสุตตันตปิฎกไทย: 23/226/145
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่าข้าแต่ท่านพระโคดม ข้าพระองค์ใคร่จะไปอยู่ต่างถิ่น ขอ
ท่านพระโคดมโปรดแสดงธรรมที่จะพึงเป็นไปเพื่อประโยชน์เพื่อความสุขในปัจจุบัน เพื่อ
ประโยชน์เพื่อความสุขในภายหน้า แก่ข้าพระองค์เถิด ฯ
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรพราหมณ์ ธรรม ๔ ประการนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์
เพื่อความสุขในปัจจุบัน ๔ ประการเป็นไฉน คือ อุฏฐานสัมปทา ๑ อารักขสัมปทา ๑ กัลยาณ
มิตตตา ๑ สมชีวิตา ๑ ฯ
ดูกรพราหมณ์ ก็อุฏฐานสัมปทาเป็นไฉน กุลบุตรในโลกนี้ เลี้ยงชีพด้วยความหมั่น
ประกอบการงาน ... ดูกรพราหมณ์ นี้เรียกว่าอุฏฐานสัมปทา ฯ
ดูกรพราหมณ์ ก็อารักขสัมปทาเป็นไฉน กุลบุตรในโลกนี้มีโภคทรัพย์ที่หามาด้วยความ
หมั่นเพียร สั่งสมด้วยกำลังแขน ... ดูกรพราหมณ์ นี้เรียกว่าอารักขสัมปทา ฯ
ดูกรพราหมณ์ ก็กัลยาณมิตตตาเป็นไฉน กุลบุตรในโลกนี้อยู่อาศัยในบ้านหรือนิคมใด
ย่อมดำรงตน เจรจาสนทนากับบุคคลในบ้านหรือนิคมนั้น ...ดูกรพราหมณ์ นี้เรียกว่า
กัลยาณมิตตตา ฯ
ดูกรพราหมณ์ ก็สมชีวิตาเป็นไฉน กุลบุตรในโลกนี้รู้ทางเจริญแห่งโภคทรัพย์และทาง
เสื่อมแห่งโภคทรัพย์ แล้วเลี้ยงชีพพอเหมาะ ไม่ให้ฟูมฟายนัก ไม่ให้ฝืดเคืองนัก ... ดูกรพราหมณ์
นี้เรียกว่าสมชีวิตา ฯ
ดูกรพราหมณ์ โภคทรัพย์ที่เกิดขึ้นโดยชอบอย่างนี้แล้ว ย่อมมีทางเสื่อม ๔ ประการ
คือ เป็นนักเลงหญิง ๑ เป็นนักเลงสุรา ๑ เป็นนักเลงการพนัน ๑มีมิตรชั่ว สหายชั่ว
เพื่อนชั่ว ๑ ... ฯ
ดูกรพราหมณ์ โภคทรัพย์ที่เกิดโดยชอบอย่างนี้ ย่อมมีทางเจริญอยู่ ๔ ประการ คือ
ไม่เป็นนักเลงหญิง ๑ ไม่เป็นนักเลงสุรา ๑ ไม่เป็นนักเลงการพนัน ๑ มีมิตรดี สหายดี
เพื่อนดี ๑ ... ดูกรพราหมณ์ ธรรม ๔ ประการนี้แล ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เพื่อความสุขใน
ปัจจุบันแก่กุลบุตร ฯ
ดูกรพราหมณ์ ธรรม ๔ ประการนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เพื่อความสุขในภายหน้า
แก่กุลบุตร ธรรม ๔ ประการเป็นไฉน คือ ศรัทธาสัมปทา ๑ ศีลสัมปทา ๑ จาคสัมปทา ๑