พระสุตตันตปิฎกไทย: 30/225/585 586 587
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส
[๕๘๕] นกละป่าเล็กแล้ว พึงอาศัยป่าใหญ่ที่มีผลไม้มากอยู่ ฉันใด
ข้าพระองค์ก็ฉันนั้น ละแล้วซึ่งพวกพราหมณ์ที่มีปัญญาน้อย
อาศัยแล้วซึ่งพระองค์ เป็นดังว่าหงส์อาศัยสระใหญ่ที่มีน้ำ
มาก ฉะนี้.
[๕๘๖] นกท่านกล่าวว่า ทิชะ ในอุเทศว่า ทิโช ยถา กุพฺพสกํ ปหาย พหุปฺผลํ
กานนฺนอาวสยฺย ดังนี้.
เพราะเหตุไรนกท่านจึงกล่าว ทิชะ. นกเกิด ๒ ครั้ง คือ เกิดแต่ท้องแม่ครั้งหนึ่ง เกิด
แต่กะเปาะฟองครั้งหนึ่ง เพราะเหตุนั้น. นกท่านจึงเรียกว่า ทิชะ เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ทิชะ.
คำว่า ละป่าเล็กน้อย ... ฉันใด ความว่า นกละทิ้ง ล่วงเลยแล้วซึ่งป่าน้อยที่มีอาหาร
เครื่องกินน้อย มีน้ำน้อย ไปประสบพบได้ป่าใหญ่ซึ่งเป็นไพรสณฑ์ที่มีต้นไม้มาก มีผลไม้ดก
มีอาหารเครื่องกินมาก ที่อื่น สำเร็จความอยู่ในไพรสณฑ์นั้น ฉันใด เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า นก
ละป่าเล็กน้อย อาศัยป่าใหญ่ที่มีผลไม้มากอยู่ ฉันใด.
[๕๘๗] คำว่า เอวํ ในอุเทศว่า เอวมาหํ อปฺปทสฺเส ปหาย มโหทธึ หํสริวชฺฌปตฺโต
ดังนี้ เป็นเครื่องยังอุปมาให้ถึงพร้อมเฉพาะ.
คำว่า ละแล้วซึ่งพวกพราหมณ์ที่มีปัญญาน้อย ความว่า พาวรีพราหมณ์ และพวก
พราหมณ์อื่นซึ่งเป็นอาจารย์ของพาวรีพราหมณ์นั้น เปรียบเทียบเข้ากะพระผู้มีพระภาคแล้ว ก็เป็น
ผู้มีปัญญาน้อย คือ มีปัญญานิดหน่อย มีปัญญาเล็กน้อย มีปัญญาต่ำช้า มีปัญญาลามก มี
ปัญญาเลวทราม. ข้าพระองค์ละทิ้ง ล่วง ล่วงเลยแล้วซึ่งพราหมณ์เหล่านั้น ผู้มีปัญญาน้อย คือ
มีปัญญานิดหน่อย มีปัญญาเล็กน้อย มีปัญญาต่ำช้า มีปัญญาลามก มีปัญญาเลวทราม ประสบ
พบแล้วซึ่งพระผู้มีพระภาคผู้ตรัสรู้แล้ว มีปัญญาเลิศ มีปัญญาประเสริฐ มีปัญญาวิเศษ มีปัญญา
อุดม สูงสุด ไม่มีใครเสมอ เสมอด้วยพระพุทธเจ้าที่ไม่มีใครเสมอ ไม่มีใครเปรียบเทียบ
เป็นบุคคลหาใครเปรียบมิได้ เป็นเทวดาล่วงเทวดา เป็นผู้องอาจกว่านรชน เป็นบุรุษสีหะ
เป็นบุรุษนาค เป็นบุรุษอาชาไนย เป็นบุรุษแกล้วกล้า เป็นบุรุษผู้นำธุระไป มีพลธรรม ๑๐
เป็นผู้คงที่ หงส์พึงประสบ พบ ได้ซึ่งสระใหญ่ที่พวกมนุษย์ทำไว้ สระอโนดาต หรือมหาสมุทร
ที่ไม่กำเริบ มีน้ำนับไม่ถ้วน ฉันใด ข้าพระองค์เป็นพราหมณ์ชื่อปิงคิยะ ประสบ พบ ได้แล้ว