พระสุตตันตปิฎกไทย: 22/223/206
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
๖. วินิพันธสูตร
[๒๐๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เครื่องผูกพันใจ ๕ ประการนี้ ๕ ประการเป็นไฉน คือ
ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ยังไม่ปราศจากความกำหนัด ยังไม่ปราศจากความพอใจ ยังไม่ปราศจาก
ความรัก ยังไม่ปราศจากความระหาย ยังไม่ปราศจากความทะยานอยากในกาม ภิกษุใด เป็นผู้
ยังไม่ปราศจากความกำหนัด ...ยังไม่ปราศจากความทะยานอยากในกาม จิตของภิกษุนั้นย่อมไม่
น้อมไปเพื่อความเพียร เพื่อความประกอบเนืองๆ เพื่อกระทำติดต่อ เพื่อบำเพ็ญเพียร นี้เป็น
เครื่องผูกใจข้อที่ ๑ ฯ
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้ยังไม่ปราศจากความกำหนัด ... ยังไม่ปราศจากความทะยาน
อยากในกาย ภิกษุใด เป็นผู้ยังไม่ปราศจากความกำหนัด ... ยังไม่ ปราศจากความทะยานอยากใน
กาย จิตของภิกษุนั้นย่อมไม่น้อมไปเพื่อความเพียรเพื่อประกอบเนืองๆ เพื่อกระทำติดต่อ เพื่อ
บำเพ็ญเพียร นี้เป็นเครื่องผูกพันใจข้อที่ ๒ ฯ
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้ยังไม่ปราศจากความกำหนัด ... ยังไม่ปราศจากความทะยาน
อยากในรูป ภิกษุใด เป็นผู้ยังไม่ปราศจากความกำหนัด ...ยังไม่ปราศจากความทะยานอยากใน
รูป จิตของภิกษุนั้นย่อมไม่น้อมไปเพื่อความเพียร เพื่อความประกอบเนืองๆ เพื่อกระทำติดต่อ เพื่อ
บำเพ็ญเพียร นี้เป็นเครื่องผูกพันใจข้อที่ ๓ ฯ
อีกประการหนึ่ง ภิกษุฉันอาหารจนอิ่มตามต้องการแล้ว ประกอบความสุขในการนอน
ความสุขในการเอน ความสุขในการหลับอยู่ ภิกษุใด ฉันอาหารจนอิ่มตามความต้องการแล้ว
ประกอบความสุขในการนอน ความสุขในการเอนความสุขในการหลับอยู่ จิตของภิกษุนั้นย่อม
ไม่น้อมไปเพื่อความเพียร เพื่อความประกอบเนืองๆ เพื่อกระทำติดต่อ เพื่อบำเพ็ญเพียร นี้เป็น
เครื่องผูกพันใจข้อที่ ๔ ฯ
อีกประการหนึ่ง ภิกษุปรารถนาเทพนิกายหมู่ใดหมู่หนึ่งประพฤติพรหมจรรย์ด้วยตั้งใจว่า
เราจักเป็นเทวดา หรือเป็นเทพองค์ใดองค์หนึ่ง ด้วยศีล พรต ตบะหรือพรหมจรรย์นี้ ภิกษุใด
ปรารถนาเทพนิกายหมู่ใดหมู่หนึ่ง ประพฤติพรหมจรรย์ด้วยตั้งใจว่า เราจักเป็นเทวดา หรือเป็น
เทพองค์ใดองค์หนึ่ง ด้วยศีล พรต ตบะหรือพรหมจรรย์นี้ จิตของภิกษุนั้นย่อมไม่น้อมไป