พระสุตตันตปิฎกไทย: 11/220/326 327
สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค
ด้วยกัน พึงสังคายนาเป็นอันเดียวกัน ไม่พึงแก่งแย่งกันในธรรมนั้น การที่พรหมจรรย์นี้พึง
ยั่งยืนตั้งอยู่นานนั้น พึงเป็นไปเพื่อประโยชน์แก่ชนมาก เพื่อความสุขแก่ชนมาก เพื่ออนุเคราะห์
แก่โลก เพื่อประโยชน์เพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ฯ
จบหมวด ๖
___________
หมวด ๗
[๓๒๖] ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย ธรรมมีประเภทละ ๗ๆ ที่พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้ทรงเห็น
เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ตรัสไว้โดยชอบแล้วมีอยู่แล พวกเราทั้งหมด
ด้วยกันพึงสังคายนาเป็นอันเดียวกัน ไม่พึงแก่งแย่งกันในธรรมนั้น การที่พรหมจรรย์นี้พึง
ยั่งยืนตั้งอยู่นานนั้น พึงเป็นไปเพื่อประโยชน์แก่ชนมาก เพื่อความสุขแก่ชนมาก เพื่ออนุเคราะห์
แก่โลก เพื่อประโยชน์เพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ฯ
อริยทรัพย์ ๗ อย่าง
๑. สัทธาธนัง
[ทรัพย์คือศรัทธา]
๒. สีลธนัง
[ทรัพย์คือศีล]
๓. หิริธนัง
[ทรัพย์คือหิริ]
๔. โอตตัปปธนัง
[ทรัพย์คือโอตตัปปะ]
๕. สุตธนัง
[ทรัพย์คือสุตะ]
๖. จาคธนัง
[ทรัพย์คือจาคะ]
๗. ปัญญาธนัง
[ทรัพย์คือปัญญา]
[๓๒๗] โพชฌงค์ ๗ อย่าง
๑. สติสัมโพชฌงค์
[องค์แห่งปัญญาเครื่องตรัสรู้คือความระลึกได้]
๒. ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์
[องค์แห่งปัญญาเครื่องตรัสรู้คือการสอดส่องธรรม]