พระสุตตันตปิฎกไทย: 11/218/321 322 323

สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค
เล่ม 11
หน้า 218
ลูกศรคือความเคลือบแคลงสงสัย ก็จักยังครอบงำจิตของเขาตั้งอยู่ได้ ดังนี้ มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส ข้อนี้มิใช่ฐานะจะมีได้ ผู้มีอายุทั้งหลาย เพราะธรรมชาติคือการเพิกถอน การถือว่าเรามีอยู่นี้ เป็นเครื่องสลัดออก ซึ่งลูกศรคือความเคลือบแคลงสงสัย ฯ
[๓๒๑] อนุตตริยะ ๖ อย่าง ๑. ทัสสนานุตตริยะ
[การเห็นอย่างยอดเยี่ยม] ๒. สวนานุตตริยะ
[การฟังอย่างยอดเยี่ยม] ๓. ลาภานุตตริยะ
[การได้อย่างยอดเยี่ยม] ๔. สิกขานุตตริยะ
[การศึกษาอย่างยอดเยี่ยม] ๕. ปาริจริยานุตตริยะ
[การบำเรออย่างยอดเยี่ยม] ๖. อนุสสตานุตตริยะ
[การระลึกถึงอย่างยอดเยี่ยม]
[๓๒๒] อนุสสติฐาน ๖ อย่าง ๑. พุทธานุสสติ
[ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า] ๒. ธัมมานุสสติ
[ระลึกถึงคุณของพระธรรม] ๓. สังฆานุสสติ
[ระลึกถึงคุณของพระสงฆ์] ๔. สีลานุสสติ
[ระลึกถึงศีล] ๕. จาคานุสสติ
[ระลึกถึงทานที่ตนบริจาค] ๖. เทวตานุสสติ
[ระลึกถึงเทวดา]
[๓๒๓] สตตวิหาร
[ธรรมเป็นเครื่องอยู่เนืองๆ] ๖ อย่าง ๑. ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ เห็นรูปด้วยนัยน์ตาแล้ว ย่อมเป็นผู้ ไม่ดีใจ ไม่เสียใจ แต่เป็นผู้วางเฉย มีสติสัมปชัญญะอยู่ ๒. ฟังเสียงด้วยหูแล้ว ย่อมเป็นผู้ไม่ดีใจไม่เสียใจ แต่เป็นผู้วางเฉย มีสติ สัมปชัญญะอยู่ ๓. ดมกลิ่นด้วยจมูกแล้ว ย่อมเป็นผู้ไม่ดีใจไม่เสียใจ แต่เป็นผู้วางเฉย มีสติ สัมปชัญญะอยู่