พระสุตตันตปิฎกไทย: 30/217/565 566 567 568 569
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส
ผู้ใดพึงปฏิบัติธรรมแห่งปัญหาหนึ่งๆ ตามที่พระพุทธเจ้า
ทรงแสดงแล้ว ผู้นั้นพึงจากที่มิใช่ฝั่งไปถึงฝั่ง.
[๕๖๕] บุคคลเมื่อเจริญมรรคอันอุดม พึงจากที่มิใช่ฝั่งไปถึงฝั่ง.
มรรคนั้น (ย่อมเป็นไป) เพื่อให้ถึงฝั่ง. เพราะเหตุนั้น
มรรคท่านจึงกล่าวว่า เป็นที่ให้ถึงฝั่ง.
[๕๖๖] กิเลสก็ดี ขันธ์ก็ดี อภิสังขารก็ดี ท่านกล่าวว่า ที่มิใช่ฝั่ง ในอุเทศว่า
อปารา ปารํ คจฺเฉยฺย ดังนี้. อมตนิพพาน ความสงบสังขารทั้งปวง ความสละคืนอุปธิทั้งปวง
ความสิ้นตัณหา ความคลายกำหนัด ความดับ ความออกจากตัณหาเป็นเครื่องร้อยรัด ท่าน
กล่าวว่า ฝั่ง.
คำว่า พึงจากที่มิใช่ฝั่งไปถึงฝั่ง ความว่า พึงจากที่มิใช่ฝั่งไปถึงฝั่ง คือ พึงบรรลุถึง พึง
ถูกต้อง พึงทำให้แจ้งซึ่งฝั่ง เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า พึงจากที่มิใช่ฝั่งไปถึงฝั่ง.
[๕๖๗] มรรคมีองค์ ๘ คือ สัมมาทิฏฐิ ฯลฯ สัมมาสมาธิ ท่านกล่าวว่ามรรค ในคำว่า
ซึ่งมรรค ในอุเทศว่า ภาเวนฺโต มคฺคมุตฺตมํ ดังนี้.
คำว่า อันอุดม คือ อันเลิศ ประเสริฐ วิเศษ เป็นประธาน สูงสุดอย่างยิ่ง เพราะ
ฉะนั้น จึงชื่อว่า มรรคอันอุดม.
คำว่า เมื่อเจริญ ความว่า เมื่อเจริญ ส้องเสพ ทำให้มาก เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า
เมื่อเจริญมรรคอันอุดม.
[๕๖๘] คำว่า มรรคนั้น (ย่อมเป็นไป) เพื่อให้ถึงฝั่ง ความว่า มรรค ปันถะ ปถะ
ปัชชะ อัญชสะ วฏมายนะ นาวา อุตตรเสตุ ปกุลละ สังกมะ (แปลว่าทาง ทุกศัพท์).
คำว่า เพื่อให้ถึงฝั่ง ความว่า เพื่อให้ถึงฝั่ง ให้ถึงพร้อมซึ่งฝั่ง ให้ตามถึงพร้อมซึ่งฝั่ง
คือ เพื่อข้ามพ้นชราและมรณะ เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า มรรคนั้น (ย่อมเป็นไป) เพื่อให้ถึงฝั่ง.
[๕๖๙] คำว่า เพราะเหตุนั้น มรรคท่านจึงกล่าวว่า เป็นที่ให้ถึงฝั่ง ความว่า เพราะ
เหตุนั้น คือ เพราะการณะนั้น เพราะเหตุนั้น เพราะปัจจัยนั้น เพราะนิพพานนั้น. อมตนิพพาน
ความสงบสังขารทั้งปวง ... ความออกจากตัณหา เป็นเครื่องร้อยรัด ท่านกล่าวว่า ฝั่ง.