พระสุตตันตปิฎกไทย: 22/216/198 199
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
๘. วาจาสูตร
[๑๙๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย วาจาประกอบด้วยองค์ ๕ ประการ เป็นวาจาสุภาษิต
ไม่เป็นทุพภาษิต และเป็นวาจาไม่มีโทษ วิญญูชนไม่ติเตียน องค์ ๕ประการเป็นไฉน คือ
วาจานั้นย่อมเป็นวาจาที่กล่าวถูกกาล ๑ เป็นวาจาที่กล่าวเป็นสัจ ๑ เป็นวาจาที่กล่าวอ่อนหวาน ๑
เป็นวาจาที่กล่าวประกอบด้วยประโยชน์ ๑เป็นวาจาที่กล่าวด้วยเมตตาจิต ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย
วาจาประกอบด้วยองค์ ๕ประการนี้แล เป็นวาจาสุภาษิต ไม่เป็นทุพภาษิต และเป็นวาจาไม่มี
โทษ วิญญูชนไม่ติเตียน ฯ
จบสูตรที่ ๘
๙. กุลสูตร
[๑๙๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรพชิตผู้มีศีลทั้งหลาย ย่อมเข้าไปหาสกุลใด พวกมนุษย์
ในสกุลนั้นย่อมประสบบุญเป็นอันมาก โดยฐานะ ๕ ประการ ฐานะ ๕ประการเป็นไฉน คือ
สมัยใด เมื่อบรรพชิตผู้มีศีลเข้าไปหาสกุล จิตของพวกมนุษย์ย่อมเลื่อมใสเพราะเห็นท่าน
สมัยนั้น สกุลนั้นชื่อว่าปฏิบัติปฏิปทาที่ยังสัตว์ให้เป็นไปพร้อมเพื่อสวรรค์ สมัยใด เมื่อ
บรรพชิตผู้มีศีลเข้าไปหาสกุล พวกมนุษย์ย่อมลุกรับ (ต้อนรับ) กราบไหว้ ให้อาสนะ (ที่นั่ง)
สมัยนั้น สกุลนั้นชื่อว่าปฏิบัติปฏิปทาที่ยังสัตว์ให้เป็นไปพร้อมเพื่อเกิดในสกุลสูง สมัยใด
เมื่อบรรพชิตผู้มีศีลเข้าไปหาสกุล พวกมนุษย์ย่อมกำจัดมลทินคือความตระหนี่ สมัยนั้นสกุลนั้น
ชื่อว่าปฏิบัติปฏิปทาที่ยังสัตว์ให้เป็นไปพร้อมเพื่อความเป็นผู้มีศักดิ์ใหญ่(เกียรติยศสูง) สมัยใด
เมื่อบรรพชิตผู้มีศีลเข้าไปหาสกุล พวกมนุษย์ย่อมจัดของถวายตามสติกำลัง สมัยนั้น สกุลนั้น
ชื่อว่า ปฏิบัติปฏิปทาที่ยังสัตว์ให้เป็นไปพร้อมเพื่อความเป็นผู้มีโภคทรัพย์มาก สมัยใด เมื่อ
บรรพชิตผู้มีศีลเข้าไปหาสกุลพวกมนุษย์ย่อมไต่ถาม สอบสวน ย่อมฟังธรรม สมัยนั้น สกุลนั้น
ชื่อว่าปฏิบัติปฏิปทาที่ยังสัตว์ให้เป็นไปพร้อมเพื่อความเป็นผู้มีปัญญามาก ดูกรภิกษุ