พระสุตตันตปิฎกไทย: 15/213/686 687 688 689      
      สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
      
     
 
    
        
          
            ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงหายประชวรนั้น ฯ
 [๖๘๖] ต่อมา เทวหิตพราหมณ์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคยังที่ประทับแล้ว ปราศรัยกับ
พระผู้มีพระภาค ครั้นผ่านการปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ฯ
เทวหิตพราหมณ์นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคด้วยคาถา
ว่า
พึงให้ไทยธรรมที่ไหน ทานอันบุคคลให้ที่ไหนมีผลมาก  ทักษิณาสำเร็จ
ในที่ไหน แก่บุคคลผู้บูชาอย่างไร ฯ
 [๖๘๗] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
ผู้ใดรู้ขันธ์ที่เคยอาศัยในก่อน แลเห็นสวรรค์และอบาย บรรลุพระอรหัต
อันเป็นที่สิ้นชาติ อยู่จบแล้วเพราะรู้ยิ่ง เป็นมุนี พึงให้ไทยธรรมในผู้นี้
ทานที่ให้แล้วในผู้นี้มีผลมาก  ทักษิณาย่อมสำเร็จแก่บุคคลผู้บูชาอย่างนี้
แหละ ฯ
 [๖๘๘] เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว เทวหิตพราหมณ์ได้กราบทูลพระผู้มี
พระภาคว่า ข้าแต่ท่านพระโคดม ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนักข้าแต่ท่านพระโคดม ภาษิต
ของพระองค์แจ่มแจ้งนัก พระองค์ทรงประกาศธรรมโดยอเนกปริยาย ดุจหงายภาชนะที่คว่ำ เปิด
ของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทางส่องประทีปในที่มืดด้วยหวังว่า คนมีจักษุจักมองเห็นรูปได้
ข้าแต่ท่านพระโคดมข้าพระองค์ขอถึงพระผู้มีพระภาค กับพระธรรมและพระภิกษุสงฆ์ว่าเป็น
สรณะ ขอพระองค์จงทรงจำข้าพระองค์ว่าเป็นอุบาสก ผู้ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฯ
มหาศาลสูตรที่ ๔
 [๖๘๙] สาวัตถีนิทาน ฯ
ครั้งนั้น พราหมณ์มหาศาลคนหนึ่ง เป็นคนปอน นุ่งห่มปอน เข้าไปเฝ้าพระผู้มี
พระภาคยังที่ประทับ สนทนาปราศรัยกับพระผู้มีพระภาค ครั้นผ่านการปราศรัยพอให้ระลึกถึงกัน