พระสุตตันตปิฎกไทย: 30/211/543 544 545 546

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส
เล่ม 30
หน้า 211

[๕๔๓] คำว่า เพราะเหตุนั้น ... แห่งธรรมปริยายนี้ ความว่า เพราะเหตุนั้นคือ เพราะ การณะนั้น เพราะเหตุนั้น เพราะปัจจัยนั้น เพราะนิทานนั้น เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า เพราะ เหตุนั้น. คำว่า แห่งธรรมปริยายนี้ คือ แห่งปารายนสูตรนี้ เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า เพราะ เหตุนั้น ... แห่งธรรมปริยายนี้.
[๕๔๔] อมตนิพพาน คือ ความสงบสังขารทั้งปวง ความสละคืนอุปธิทั้งปวง ความ สิ้นตัณหา ความคลายกำหนัด ความดับ ความออกจากตัณหาเป็นเครื่องร้อยรัด ท่านกล่าวว่า ฝั่ง ในอุเทศว่า ปารยนนฺเตฺวว อธิวจนํ ดังนี้. มรรคคือสัมมาทิฏฐิ ฯลฯ สัมมาสมาธิ ท่าน กล่าวว่า อายนะ (มรรคเป็นเหตุให้ถึง). คำว่า เป็นชื่อ คือ เป็นนาม เป็นการนับ เป็นเครื่องรู้เสมอ เป็นบัญญัติ ฯลฯ เป็น คำร้องเรียก เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า บทว่า ปารายนะ นั่นแหละ เป็นชื่อ.
[๕๔๕] อชิตพราหมณ์ ติสสเมตเตยยพราหมณ์ ปุณณกพราหมณ์ เมตตคูพราหมณ์ โธตกพราหมณ์ อุปสีวพราหมณ์ นันทพราหมณ์ เหมกพราหมณ์ โตเทยยพราหมณ์ กัปปพราหมณ์ ชตุกัณณีพราหมณ์ผู้เป็นบัณฑิต ภัทราวุธ พราหมณ์ อุทยพราหมณ์ โปสาลพราหมณ์ โมฆราชพราหมณ์ ผู้มีปัญญา ปิงคิยพราหมณ์ผู้แสวงหาธรรมใหญ่. พราหมณ์ เหล่านี้เข้ามาเฝ้าแล้ว ซึ่งพระพุทธเจ้าผู้มีจรณะถึงพร้อม ผู้แสวงหา เมื่อจะทูลถามปัญหาอันละเอียด มาเฝ้าแล้ว ซึ่งพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ.
[๕๔๖] คำว่า เอเต ในอุเทศว่า เอเต พุทฺธํ อุปาคญฺฉุํ ดังนี้ คือ พราหมณ์ทั้งหลาย. คำว่า พุทฺธํ จะกล่าวต่อไปนี้ พระผู้มีพระภาคเป็นพระสยัมภู ไม่มีอาจารย์ ตรัสรู้พร้อมเฉพาะ แล้วซึ่งสัจจะทั้งหลายเอง ในธรรมทั้งหลายที่พระองค์ไม่เคยได้ยินมาในกาลก่อน เป็นผู้ถึงแล้ว ซึ่งความเป็นพระสัพพัญญูในธรรมเหล่านั้น และถึงแล้วซึ่งความเป็นผู้ชำนาญในพลธรรมทั้งหลาย. พระผู้มีพระภาคชื่อว่า พุทโธ ในคำว่า พุทโธ ดังนี้ เพราะอรรถว่ากระไร? เพราะว่า ตรัสรู้สัจจะทั้งหลาย เพราะอรรถว่าพระองค์ปลุกหมู่สัตว์ให้ตื่น เพราะทรงรู้ธรรมทั้งปวง เพราะ