พระสุตตันตปิฎกไทย: 30/209/532 533 534 535 536

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส
เล่ม 30
หน้า 209
โสฬสมาณวกปัญหานิทเทส ว่าด้วยปัญหาของมาณพทั้ง ๑๖ คน
[๕๓๒] พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเช่นนี้แล้ว คือ เมื่อประทับอยู่ที่ปาสาณกเจดีย์แคว้น มคธ พราหมณ์ ๑๖ คน ทั้งปิงคิยพราหมณ์ผู้เป็นบริจาริกา ทูลเชื้อเชิญถามแล้วๆ ทรงพยากรณ์แล้ว ซึ่งปัญหา.
[๕๓๓] คำว่า พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเช่นนี้แล้ว ความว่า พระผู้มีพระภาคได้ตรัสแล้ว ซึ่งปารายนสูตรนี้. คำว่า ภควา นี้เป็นเครื่องกล่าวโดยเคารพ. ฯลฯ คำว่า ภควา นี้ เป็น สัจฉิกาบัญญัติ เพราะเหตุนั้น จึงชื่อว่า พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเช่นนี้แล้ว.
[๕๓๔] คำว่า ประทับอยู่ ... แคว้นมคธ ความว่า ใกล้ชนบท มีชื่อว่ามคธ. คำว่า วิหรนฺโต ความว่า ประทับอยู่ คือ ผลัดเปลี่ยนอิริยาบถ เป็นไป รักษา บำรุง เยียวยา. พระพุทธอาสน์ ท่านกล่าวว่า ปาสาณเจดีย์ ในอุเทศว่า ปาสาณเก เจติเย ดังนี้ เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ประทับอยู่ที่ปาสาณเจดีย์แคว้นมคธ.
[๕๓๕] คำว่า พราหมณ์ ๑๖ คน ทั้งปิงคิยพราหมณ์ผู้เป็นบริจาริกา ความว่า พราหมณ์ คนนั้น ทั้งปิงคิยพราหมณ์ผู้เป็นคนรับใช้ใกล้ชิดผู้ประเสริฐ ที่ปรารถนาของพาวรีพราหมณ์ แม้ ด้วยเหตุอย่างนี้ดังนี้จึงชื่อว่า พราหมณ์ ๑๖ คน ทั้งปิงคิยพราหมณ์เป็นบริจาริกา. อีกอย่างหนึ่ง พราหมณ์ ๑๖ คนนั้น พึงเป็นบริจาริกาผู้ประเสริฐ ที่ปรารถนาแห่งพระ ผู้มีพระภาคผู้ตรัสรู้แล้ว แม้ด้วยเหตุอย่างนี้ดังนี้จึงชื่อว่า พราหมณ์ ๑๖ คน ทั้งปิงคิยพราหมณ์ ผู้เป็นบริจาริกา.
[๕๓๖] คำว่า ทูลเชื้อเชิญถามแล้วๆ ทรงพยากรณ์แล้วซึ่งปัญหา ความว่า ทูลเชื้อเชิญ อาราธนาแล้ว. คำว่า ถามแล้วๆ ความว่า ถามแล้วๆ คือ ทูลอาราธนาแล้ว เชื้อเชิญให้ ทรงประสาทแล้ว. คำว่า ทรงพยากรณ์แล้วซึ่งปัญหา ความว่า ทรงพยากรณ์แล้ว คือ ตรัสบอก ... ทรงประกาศแล้วซึ่งปัญหา เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ทูลเชื้อเชิญถามแล้วๆ ทรงพยากรณ์แล้ว ซึ่งปัญหา.