พระสุตตันตปิฎกไทย: 10/208/258      
      สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค
      
     
 
    
        
          
            ทราบอุเบกขาอันใดว่า เมื่อเราเสพอุเบกขานี้ อกุศลธรรม   เจริญขึ้น กุศลธรรมเสื่อม อุเบกขา
เห็นปานนี้ ไม่ควรเสพ บุคคลพึงทราบอุเบกขา     อันใดว่า เมื่อเราเสพอุเบกขานี้ อกุศลธรรม
เสื่อม กุศลธรรมเจริญขึ้น อุเบกขา      เห็นปานนี้ ควรเสพ ในอุเบกขาทั้ง ๒ นั้น ถ้าอุเบกขา
อันใด มีวิตก มีวิจาร  อันใดไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร ใน ๒ อย่างนั้น อุเบกขาที่ไม่วิตก ไม่มี
วิจาร ประ    ณีตกว่า ดูกรจอมเทพ อาตมภาพกล่าวอุเบกขาแยกเป็น ๒ คือ ที่ควรเสพก็มี   ที่ไม่
ควรเสพก็มี ฉะนี้แล ที่กล่าวถึงอุเบกขาดังนี้ กล่าวเพราะอาศัยข้อนี้ ฯ
      ภิกษุผู้ปฏิบัติอย่างนี้แล จึงจะชื่อว่า ดำเนินปฏิปทาอันสมควรที่จะให้ถึง  ความดับแห่ง
ส่วนสัญญาอันประกอบด้วยปปัญจธรรม ฯ
      พระผู้มีพระภาคอันท้าวสักกะจอมเทพทูลถามปัญหาแล้ว ทรงพยากรณ์ด้วยประการฉะนี้ ฯ
      ท้าวสักกะจอมเทพทรงดีพระทัย ชื่นชมอนุโมทนาภาษิตของพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่
พระผู้มีพระภาค ข้อนี้เป็นอย่างนั้น ข้าแต่พระสุคต ข้อนี้เป็น   อย่างนั้น ในข้อนี้ ข้าพระองค์
ข้ามความสงสัยแล้ว ปราศจากถ้อยคำที่จะพูดว่า      อย่างไรแล้ว เพราะได้ฟังการพยากรณ์ปัญหา
ของพระผู้มีพระภาค ฯ
 [๒๕๘] ท้าวสักกะจอมเทพ ทรงชื่นชมอนุโมทนาภาษิตของพระผู้มีพระภาคในปัญหา
พยากรณ์ข้อนี้ ดังนี้แล้ว จึงได้ทูลถามปัญหากะพระผู้มีพระภาคยิ่งขึ้น ไปว่า ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์
ก็ภิกษุปฏิบัติอย่างไร จึงจะชื่อว่าปฏิบัติแล้วเพื่อ   ความสำรวมในปาติโมกข์ ฯ
      ดูกรจอมเทพ อาตมภาพกล่าวกายสมาจารโดยแยกเป็น ๒ คือ ที่ควรเสพ ก็มี ที่ไม่ควร
เสพก็มี วจีสมาจารก็แยกเป็น ๒ คือ ที่ควรเสพก็มี ที่ไม่ควรเสพ    ก็มี และการแสวงหาก็แยก
เป็น ๒ คือ ที่ควรเสพก็มี ที่ไม่ควรเสพก็มี ฯ
      ดูกรจอมเทพ อาตมภาพกล่าวกายสมาจารโดยแยกเป็น ๒ คือ ที่ควรเสพ ก็มี ที่ไม่
ควรเสพก็มี ก็ที่กล่าวถึงกายสมาจารดังนี้ กล่าวเพราะอาศัยอะไร ใน   กายสมาจารทั้ง ๒ นั้น บุคคล
พึงทราบกายสมาจารอันใดว่า เมื่อเราเสพกายสมา  จารนี้ อกุศลธรรมเจริญขึ้น กุศลธรรมเสื่อม
กายสมาจารเห็นปานนี้ ไม่ควรเสพ  บุคคลพึงทราบกายสมาจารอันใดว่า เมื่อเราเสพกายสมาจาร
นี้ อกุศลธรรมเสื่อม  กุศลธรรมเจริญขึ้น กายสมาจารเห็นปานนี้ ควรเสพ ดูกรจอมเทพ
อาตมภาพ กล่าวกายสมาจารโดยแยกเป็น ๒ คือ ที่ควรเสพก็มี ที่ไม่ควรเสพก็มี ฉะนี้แล  ที่กล่าว
ถึงกายสมาจารดังนี้ กล่าวเพราะอาศัยข้อนี้ ฯ