พระสุตตันตปิฎกไทย: 10/204/253
สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค
แม้ เราก็เข้าไปหาพวกท่าน ได้ฟังสุภาษิตของพระอริยะทั้งหลาย เราได้
เป็นบุตรท้าวสักกะ มีอานุภาพมาก มีความรุ่งเรืองใหญ่ หลวง เข้าถึงชั้น
ไตรทิพย์ ส่วนพวกท่านเข้าไปนั่งใกล้ พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ ประพฤติ
พรหมจรรย์ในพระพุทธเจ้าผู้ ยอดเยี่ยม ยังมาเข้าถึงกายอันต่ำ การอุปบัติ
ของพวกท่านไม่ สมควร เราได้มาเห็นสหธรรมิกเข้าถึงกายอันต่ำ นับว่าได้
เห็น รูปที่ไม่น่าดูแล้ว พวกท่านผู้เข้าถึงหมู่คนธรรพ์ ต้องมาสู่ที่ บำเรอของ
พวกเทวดา ขอให้ท่านดูความวิเศษอันนี้ของเราผู้อยู่ ในเรือนเถิด เราเป็น
สตรี วันนี้เป็นเทวบุตร ผู้พร้อมพรั่งไป ด้วยกามอันเป็นทิพย์ คนธรรพ์
พวกนั้นมาพบโคปกเทวบุตร อันโคปกเทวบุตร ผู้สาวกพระโคดมตักเตือน
แล้ว ถึงความ สลดใจ คิดว่า เอาเถิด พวกเราจะพากเพียรพยายาม
พวกเราจะไม่เป็นคนใช้ของผู้อื่น บรรดาคนธรรพ์ทั้ง ๓ นั้น คน ธรรพ์ ๒ คน
ระลึกถึงคำสอนพระโคดมแล้ว ปรารภความเพียร คลายจิตในภพนี้
ได้เห็นโทษในกามแล้ว ตัดกาม สังโยชน์ และเครื่องผูก คือกามอันเป็น
บ่วงของมาร ซึ่งยาก ที่จะล่วงไปได้ ก้าวล่วงเสีย ซึ่งพวกเทวดาชั้นดาวดึงส์
เพราะ ตัดเสียได้ ซึ่งกามคุณอันมีอยู่ ประดุจช้างตัดบ่วงบาสได้ ฉะนั้น
เทวดาทั้งหมด พร้อมทั้งพระอินทร์ พร้อมทั้งท้าวปชาบดี เข้าไปนั่ง
ประชุมกันในสภา ชื่อ สุธรรมา ล้วนเป็น ผู้แกล้วกล้า ปราศจากราคะ
บำเพ็ญวิรชธรรมอยู่ ก็หาก้าวล่วงเทวดาพวกนั้นไม่ ท้าววาสพผู้เป็นใหญ่ยิ่ง
ของเทวดา ทรง เห็นเทวดาเหล่านั้นในท่ามกลางหมู่เทวดาแล้ว ได้ทรงสลด
พระทัยว่า ก็เทวดาเหล่านี้เข้าถึงกายอันต่ำ บัดนี้ กลับก้าวล่วง พวกเทวดา
ชั้นดาวดึงส์ เมื่อท้าวสักกะเกิดสลดพระทัย เพราะ ทรงพิจารณาเทวดา
เหล่านั้น โคปกเทวบุตรได้ทูลท้าววาสพว่า พระพุทธเจ้าผู้เป็นจอมชน มี
อยู่ในม นุษยโลก ทรงครอบงำกาม เสียได้ ปรากฏพระนามว่า พระศากยมุนี
เทวดาพวกนั้นเป็น บุตรของพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น เป็นผู้เว้นจากสติแล้ว
อัน ข้าพระองค์ตักเตือน กลับได้สติ บรรดาท่านทั้ง ๓ นั้น ท่าน ผู้หนึ่ง
คงเข้าถึงกายคนธรรพ์อยู่ในภพนี้ อีก ๒ ท่านดำเนิน ตามทางตรัสรู้ เป็นผู้
มีจิตตั้งมั่นแล้ว จะเย้ยพวกเทวดาก็ได้ การประกาศธรรมในพระวินัยนี้