พระสุตตันตปิฎกไทย: 11/202/298
สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค
จิตของภิกษุผู้ยังไม่ปราศจากความกำหนัด ความพอใจ ความรัก ความระหาย ความกระวน
กระวาย ความทะยานอยากในกายย่อมไม่น้อมไปเพื่อความเพียร เพื่อความประกอบ
เนืองๆ เพื่อความกระทำเป็นไปติดต่อ เพื่อความเพียรที่ตั้งมั่น นี้ความผูกพันธ์แห่งจิตข้อที่สอง ฯ
๓. ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย ข้ออื่นยังมีอีก ภิกษุเป็นผู้ยังไม่ปราศจากความกำหนัด
ความพอใจ ความรัก ความระหาย ความกระวนกระวาย ความทะยานอยากในรูป ผู้มีอายุ
ทั้งหลาย จิตของภิกษุผู้ยังไม่ปราศจากความกำหนัด ความพอใจ ความรัก ความระหาย
ความกระวนกระวาย ความทะยานอยากในรูปย่อมไม่น้อมไปเพื่อความเพียร เพื่อความประกอบ
เนืองๆ เพื่อความกระทำเป็นไปติดต่อ เพื่อความเพียรที่ตั้งมั่น นี้ความผูกพันธ์แห่งจิตข้อที่สาม ฯ
๔. ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย ข้ออื่นยังมีอีก ภิกษุบริโภคอิ่มหนำพอแก่ความต้องการแล้ว
ประกอบความสุขในการนอน ความสุขในการเอนข้าง ความสุขในการหลับอยู่ ภิกษุทั้งหลาย
จิตของภิกษุผู้บริโภคอิ่มหนำพอแก่ความต้องการแล้ว ประกอบความสุขในการนอน ความสุขใน
การเอนข้าง ความสุขในการหลับอยู่ย่อมไม่น้อมไปเพื่อความเพียร เพื่อความประกอบเนืองๆ
เพื่อความกระทำเป็นไปติดต่อ เพื่อความเพียรที่ตั้งมั่น นี้ความผูกพันธ์แห่งจิตข้อที่สี่ ฯ
๕. ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย ข้ออื่นยังมีอีก ภิกษุประพฤติพรหมจรรย์ปรารถนา หมู่เทพเจ้า
หมู่ใดหมู่หนึ่งว่า ด้วยศีล พรต ตบะ หรือพรหมจรรย์นี้ เราจักเป็นเทพเจ้า หรือเป็นเทพ
องค์ใดองค์หนึ่ง ดังนี้ ผู้มีอายุทั้งหลาย จิตของภิกษุผู้ประพฤติพรหมจรรย์ปรารถนาหมู่
เทพเจ้าหมู่ใดหมู่หนึ่งว่า ด้วยศีล พรต ตบะหรือพรหมจรรย์นี้ เราจักเป็นเทพเจ้าหรือเป็น
เทพองค์ใดองค์หนึ่ง ดังนี้ ย่อมไม่น้อมไปเพื่อความเพียร เพื่อความประกอบเนืองๆ เพื่อความ
กระทำเป็นไปติดต่อ เพื่อความเพียรที่ตั้งมั่น นี้ความผูกพันธ์แห่งจิตข้อที่ห้า ฯ
[๒๙๘] อินทรีย์ ๕ อย่าง
๑. จักขุนทรีย์
[อินทรีย์คือตา]
๒. โสตินทรีย์
[อินทรีย์คือหู]
๓. ฆานินทรีย์
[อินทรีย์คือจมูก]
๔. ชิวหินทรีย์
[อินทรีย์คือลิ้น]
๕. กายินทรีย์
[อินทรีย์คือกาย]