พระสุตตันตปิฎกไทย: 14/201/380 381      
      สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
      
     
 
    
        
          
            	    ๔.  พักกุลัตเถรัจฉริยัพภูตสูตร  (๑๒๔)
 [๓๘๐]  ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้
	สมัยหนึ่ง  ท่านพระพักกุลเถระอยู่ที่พระวิหารเวฬุวัน  อันเคยเป็นสถานที่พระราชทาน
เหยื่อแก่กระแต  เขตพระนครราชคฤห์  ครั้งนั้นแล  ปริพาชกชื่ออเจละ  กัสสป  ผู้เป็นสหาย
ของท่านพระพักกุละ  ครั้งเป็นคฤหัสถ์  ในกาลก่อน  เข้าไปหาท่านพระพักกุละถึงที่อยู่  ครั้นแล้ว
ได้ทักทายปราศรัยกับท่านพระพักกุละ  ครั้นผ่านคำทักทายปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว
ได้นั่ง  ณ  ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง  พอนั่งเรียบร้อยแล้ว  ได้กล่าวกะท่านพระพักกุละดังนี้ว่า  ข้าแต่
ท่านพระพักกุละ  ท่าน  บวชมานานเท่าไรแล้ว  ฯ
	ท่านพระพักกุละตอบว่า  ดูกรท่านผู้มีอายุ  เราบวชมา  ๘๐  พรรษาแล้ว  ฯ
	อเจล.  ข้าแต่ท่านพระพักกุละ  ชั่ว  ๘๐  ปีนี้  ท่านเสพเมถุนธรรมกี่ครั้ง  ฯ
 [๓๘๑]  พักกุล.  ดูกรกัสสปผู้มีอายุ  ท่านไม่ควรถามเราอย่างนั้นเลยแต่ควรจะถามเรา
อย่างนี้ว่า  ก็ชั่ว  ๘๐  ปีนี้  กามสัญญาเคยเกิดขึ้นแก่ท่านกี่ครั้งดูกรท่านผู้มีอายุ  เมื่อเราบวช
มาตลอด  ๘๐  พรรษา  ไม่รู้สึกกามสัญญาเคยเกิดขึ้น  ฯ
	อเจล.  ข้อที่ท่านพระพักกุละ  ไม่รู้สึกกามสัญญาเคยเกิดขึ้น  ชั่วเวลา  ๘๐  พรรษา  นี้
พวกข้าพเจ้าจะทรงจำไว้ว่า  เป็นธรรมไม่น่าเป็นไปได้  น่าอัศจรรย์ของท่านพระพักกุละ
ประการหนึ่ง  ฯ
	พักกุล.  ดูกรท่านผู้มีอายุ  เมื่อเราบวชมาตลอด  ๘๐  พรรษา  เราไม่รู้สึก  พยาบาทสัญญา
เคยเกิดขึ้น  ฯ
	อเจล.  ข้อที่ท่านพระพักกุละ  ไม่รู้สึกพยาบาทสัญญาเคยเกิดขึ้นชั่วเวลา๘๐  พรรษา  นี้
พวกข้าพเจ้าจะทรงจำไว้ว่า  เป็นธรรมไม่น่าเป็นไปได้  น่าอัศจรรย์ของท่านพระพักกุละ
 ประการหนึ่ง  ฯ