พระสุตตันตปิฎกไทย: 21/2/2 3

สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต
เล่ม 21
หน้า 2
พระพุทธเจ้าผู้พระศาสดามีจักษุทรงกระทำที่สุดทุกข์ ตรัสรู้ พระธรรมแล้ว ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลาย พระองค์เสด็จ ปรินิพพานแล้ว ด้วยประการฉะนี้ ฯ จบสูตรที่ ๑ ปปติตสูตร
[๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ไม่ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการ เราเรียกว่า ผู้ตก ไปจากธรรมวินัยนี้ ธรรม ๔ ประการ เป็นไฉน คือ ศีลที่เป็นอริยะ ๑ สมาธิที่เป็นอริยะ ๑ ปัญญา ที่เป็นอริยะ ๑ และวิมุตติที่เป็นอริยะ ๑ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ไม่ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการ นี้แล เราเรียกว่าผู้ตกไปจากธรรมวินัยนี้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม๔ ประการ เราเรียกว่า ผู้ไม่ตกไปจากธรรมวินัยนี้ ธรรม ๔ ประการเป็นไฉนคือ ศีลที่เป็นอริยะ ๑ สมาธิที่ เป็นอริยะ ๑ ปัญญาที่เป็นอริยะ ๑ และวิมุตติที่เป็นอริยะ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบ ด้วยธรรม ๔ ประการนี้แลเราเรียกว่า ผู้ไม่ตกไปจากธรรมวินัยนี้ ผู้ที่ตกไปจากธรรมวินัยนี้ ชื่อว่าผู้ตกไป ผู้กำหนัดเพราะราคะ เป็นผู้กลับมาอีก ฉะนั้น ควรทำกิจที่ควรทำ ยินดีใน คุณชาติที่ควรยินดี จะได้บรรลุสุขทั้งโลกียสุขและโลกุตตร สุข ฯ จบสูตรที่ ๒ ขตสูตรที่ ๑
[๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการ เป็นคนพาล ไม่เฉียบ แหลม ไม่ใช่สัตบุรุษ ย่อมคุ้มครองตนที่ ปราศจากคุณสมบัติย่อมเป็นผู้ประกอบไปด้วยโทษ นัก ปราชญ์ติเตียน และย่อมประสบกรรมมิใช่บุญเป็นอันมาก ธรรม ๔ ประการเป็นไฉน คือ ไม่