พระสุตตันตปิฎกไทย: 14/2/3

สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
เล่ม 14
หน้า 2

[๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราเข้าไปหาพวกนิครนถ์ผู้มีวาทะอย่างนี้แล้ว ถามอย่างนี้ว่า ดูกรนิครนถ์ผู้มีอายุ จริงหรือที่มีข่าวว่า พวกท่านมีวาทะอย่างนี้ มีทิฐิอย่างนี้ว่า ปุริสบุคคล นี้ย่อมเสวยเวทนาอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสุขก็ดี เป็น ทุกข์ก็ดี มิใช่ทุกข์มิใช่สุขก็ดี ข้อนั้น ทั้งหมดเป็นเพราะเหตุแห่งกรรมที่ตนทำไว้ ในก่อน ทั้งนี้เพราะหมดกรรมเก่าด้วยตบะ ไม่ทำกรรม ใหม่ จักมีความไม่ถูกบังคับต่อไป จักมีความสิ้นกรรม เพราะสิ้นกรรม จักมีความ สิ้นทุกข์ เพราะสิ้น ทุกข์ จักมีความสิ้นเวทนา เพราะสิ้นเวทนา ทุกข์ทั้งปวงจักเป็นของอันปุริสบุคคลนั้นสลัดได้แล้ว ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกนิครนถ์นั้น ถูกเราถามอย่างนี้แล้วย่อมยืนยัน เราจึงถามพวกนิครนถ์นั้น อย่างนี้ว่า ดูกรนิครนถ์ผู้มีอายุ พวกท่านทราบละหรือว่าเราทั้งหลายได้มีแล้วใน ก่อน มิใช่ไม่ได้มีแล้ว ฯ นิครนถ์เหล่านั้นตอบว่า ดูกรท่านผู้มีอายุ ข้อนี้หามิได้เลย ฯ เรา. ดูกรนิครนถ์ผู้มีอายุ พวกท่านทราบละหรือว่า เราทั้งหลายได้ทำบาปกรรมไว้ใน ก่อน มิใช่ไม่ได้ทำไว้ ฯ นิ. ดูกรท่านผู้มีอายุ ข้อนี้หามิได้เลย ฯ เรา. ดูกรนิครนถ์ผู้มีอายุ พวกท่านทราบละหรือว่า เราทั้งหลายได้ทำบาปกรรมอย่างนี้บ้างๆ ฯ นิ. ดูกรท่านผู้มีอายุ ข้อนี้หามิได้เลย ฯ เรา. ดูกรนิครนถ์ผู้มีอายุ พวกท่านทราบละหรือว่า ทุกข์เท่านี้เราสลัดได้แล้ว หรือว่า ทุกข์เท่านี้เราต้องสลัดเสีย หรือว่าเมื่อทุกข์เท่านี้เราสลัดได้แล้วจักเป็นอันเราสลัดทุกข์ได้ ทั้งหมด ฯ นิ. ดูกรท่านผู้มีอายุ ข้อนี้หามิได้เลย ฯ เรา. ดูกรนิครนถ์ผู้มีอายุ พวกท่านทราบการละอกุศลธรรม การบำเพ็ญกุศลธรรมในปัจจุบันละ หรือ ฯ นิ. ดูกรท่านผู้มีอายุ ข้อนี้หามิได้เลย ฯ