พระสุตตันตปิฎกไทย: 15/191/618 619 620      
      สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
      
     
 
    
        
          
            
 [๖๑๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธพระนาม
ว่าสิขี และภิกษุอภิภูยังพรหม พรหมบริษัท และพรหมปาริสัชชะ  ทั้งหลายให้หลากใจแล้ว ได้
หายไปจากพรหมโลกนั้น (มา) ปรากฏในอรุณวตี ราชธานี เหมือนบุรุษผู้มีกำลังเหยียดแขนที่งอ
เข้ามาแล้วออกไป หรืองอแขนที่เหยียดออกไปแล้วเข้ามาฉะนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล
พระผู้มีพระภาค        อรหันตสัมมาสัมพุทธพระนามว่าสิขี ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมาว่า ดูกรภิกษุ
ทั้งหลาย เมื่อภิกษุอภิภูยืนอยู่ในพรหมโลก กล่าวคาถาทั้งหลายอยู่ เธอทั้งหลาย ได้ยินหรือไม่ ฯ
    ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า เมื่อภิกษุอภิภูยืนอยู่ในพรหมโลก กล่าวคาถา  ทั้งหลายอยู่
ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ยินแล้ว พระเจ้าข้า ฯ
    พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธพระนามว่าสิขี ตรัสถามว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็เมื่อภิกษุอภิภูยืนอยู่ในพรหมโลก กล่าวคาถาทั้งหลายอยู่ เธอทั้งหลาย    ได้ยินว่าอย่างไร ฯ
    ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า พระเจ้าข้า เมื่อภิกษุอภิภูยืนอยู่ในพรหมโลก กล่าวคาถา
ทั้งหลายอยู่ ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ยินอย่างนี้ว่า
"ท่านทั้งหลายจงริเริ่ม จงก้าวหน้า จงประกอบ (ความเพียร)ใน
พระพุทธศาสนา จงกำจัดเสนาแห่งมัจจุเหมือนช้างกำจัดเรือนไม้อ้อ
ฉะนั้น ผู้ใดจักไม่ประมาทในพระธรรมวินัยนี้อยู่ ผู้นั้นจักละสงสารคือ
ชาติ แล้วจักกระทำที่สุดทุกข์ได้พระเจ้าข้า ฯ
    เมื่อภิกษุอภิภูยืนอยู่ในพรหมโลกกล่าวคาถาทั้งหลายอยู่ ข้าพระองค์  ทั้งหลายได้ยินแล้ว
อย่างนี้ ฯ
 [๖๑๙] พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธพระนามว่าสิขีตรัสว่า ดีละ    ดีละ
ภิกษุทั้งหลาย ดีแท้ ภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุอภิภูยืนอยู่ในพรหมโลก กล่าว  คาถาทั้งหลายอยู่
เธอทั้งหลายได้ยินแล้ว ฯ
    พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้แล้ว ภิกษุทั้งหลายเหล่านั้นมีใจ ยินดีชื่นชมภาษิต
ของพระผู้มีพระภาคแล้ว ดังนี้แล ฯ
		     ปรินิพพานสูตรที่ ๕
 [๖๒๐] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่สาลวัน อันเป็นที่แวะพัก แห่งมัลล
กษัตริย์ทั้งหลาย เขตเมืองกุสินารา ระหว่างแห่งสาลพฤกษ์ทั้งคู่  ในสมัยจะเสด็จปรินิพพาน ฯ