พระสุตตันตปิฎกไทย: 21/184/193
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต
พ. ดูกรภัททิยะ ก็บุคคลผู้ไม่โลภนี้ ไม่ถูกความโลภครอบงำย่ำยีจิต ย่อมไม่ฆ่าสัตว์
ไม่ลักทรัพย์ ไม่คบชู้ ไม่พูดเท็จ และชักชวนผู้อื่นเพื่อความเป็นอย่างนั้น ข้อนี้ย่อมเป็นไปเพื่อ
ประโยชน์เกื้อกูล เพื่อสุขตลอดกาลนานหรือ ฯ
ภัท. อย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ
พ. ดูกรภัททิยะ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ความไม่โกรธ...ความไม่หลง...
ความไม่แข่งดี เกิดขึ้นในภายในของบุรุษ ย่อมเกิดขึ้นเพื่อประโยชน์เกื้อกูล หรือเพื่อมิใช่ประโยชน์
เกื้อกูล ฯ
ภัท. เพื่อประโยชน์เกื้อกูล พระเจ้าข้า ฯ
พ. ดูกรภัททิยะ ก็บุคคลผู้ไม่แข่งดีนี้ ไม่ถูกความแข่งดีครอบงำย่ำยีจิตย่อมไม่ฆ่าสัตว์
ไม่ลักทรัพย์ ไม่คบชู้ ไม่พูดเท็จ และชักชวนผู้อื่นเพื่อความเป็นอย่างนั้น ข้อนี้ย่อมเป็นไปเพื่อ
ประโยชน์เกื้อกูล เพื่อสุขตลอดกาลนานหรือ ฯ
ภัท. อย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ
พ. ดูกรภัททิยะ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ธรรมเหล่านี้เป็นกุศล หรือเป็น
อกุศล ฯ
ภัท. เป็นกุศล พระเจ้าข้า ฯ
พ. มีโทษหรือหาโทษมิได้ ฯ
ภัท. หาโทษมิได้ พระเจ้าข้า ฯ
พ. วิญญูชนติเตียนหรือสรรเสริญ ฯ
ภัท. วิญญูชนสรรเสริญ พระเจ้าข้า ฯ
พ. ธรรมเหล่านี้อันบุคคลสมาทานให้บริบูรณ์แล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล
เพื่อสุขหรือมิใช่ หรือท่านมีความเห็นอย่างไรในข้อนี้ ฯ
ภัท. ธรรมเหล่านี้อันบุคคลสมาทานให้บริบูรณ์แล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล
เพื่อสุข ข้าพระองค์มีความเห็นอย่างนี้ในข้อนี้ พระเจ้าข้า ฯ
พ. ดูกรภัททิยะ เราได้กล่าวคำใดกะท่านว่า ท่านทั้งหลายจงมาเถิด ท่านทั้งหลาย
อย่าได้ถือฟังตามกันมา...ท่านทั้งหลายพึงเข้าถึงธรรมเหล่านั้นอยู่เถิดดังนี้ คำนั้นเรากล่าวแล้วเพราะ