พระสุตตันตปิฎกไทย: 25/182/210 211
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
๕. สีลสูตรที่ ๑
[๒๑๐] จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคผู้เป็น
พระอรหันต์ตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วว่าดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบ
ด้วยธรรม ๒ ประการ อันกรรมของตนซัดไปในนรก เหมือนถูกนำมาทิ้งลงฉะนั้น ธรรม ๒
ประการเป็นไฉน คือศีลอันลามก ๑ ทิฐิอันลามก ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบ
ด้วยธรรม๒ ประการนี้แล อันกรรมของตนซัดไปในนรก เหมือนถูกนำมาทิ้งลงฉะนั้น ฯ
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว ในพระสูตรนั้น พระผู้มีพระภาคตรัสคาถา
ประพันธ์ดังนี้ว่า
นรชนใดผู้มีปัญญาทราม ประกอบด้วยธรรม ๒ ประการนี้คือ ศีลอัน
ลามก ๑ ทิฐิอันลามก ๑ นรชนนั้น เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงนรก ฯ
เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วฉะนี้แล ฯ
จบสูตรที่ ๕
๖. สีลสูตรที่ ๒
[๒๑๑] จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคผู้เป็น
พระอรหันต์ตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วว่าดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้
ประกอบด้วยธรรม ๒ ประการ อันกรรมของตนนำมาไว้ในสวรรค์ เหมือนเชิญมาไว้ฉะนั้น
ธรรม ๒ ประการเป็นไฉน คือศีลดี ๑ ทิฐิดี ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วย
ธรรม ๒ ประการนี้แล อันกรรมของตนนำมาไว้ในสวรรค์ เหมือนเชิญมาไว้ฉะนั้น ฯ
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว ในพระสูตรนั้น พระผู้มีพระภาคตรัสคาถา
ประพันธ์ดังนี้ว่า
นรชนใดผู้มีปัญญา ประกอบด้วยธรรม ๒ ประการนี้ คือศีลดี ๑ ทิฐิ
ดี ๑ นรชนนั้น เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงสวรรค์
เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วฉะนี้แล ฯ
จบสูตรที่ ๖