พระสุตตันตปิฎกไทย: 14/178/330 331 332
สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
ย่อมเป็นไปเพื่อความสำเร็จในภาวะนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้มรรค นี้ปฏิปทา เป็นไปเพื่อ
ความสำเร็จในความเป็นสหายแห่งเทวดาผู้เข้าถึงอากาสานัญจายตนภพ ฯ
[๓๓๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ประการอื่นยังมีอีก ภิกษุเป็นผู้ประกอบด้วย ศรัทธา ศีล
สุตะ จาคะ ปัญญา เธอได้ฟังว่า เทวดาผู้เข้าถึงวิญญาณัญจายตนภพ มีอายุยืน ดำรงอยู่นาน
มากด้วยความสุข เธอมีความปรารถนาอย่างนี้ว่า โอหนอ เราเมื่อตายไปแล้ว พึงเข้าถึงความ
เป็นสหายแห่งเทวดาผู้เข้าถึงวิญญาณัญจายตนภพเถิด เธอจึงตั้งจิตนั้น อธิษฐานจิตนั้น เจริญ
จิตนั้น ความปรารถนาและวิหารธรรมเหล่านั้น อันเธอเจริญแล้วอย่างนี้ ทำให้มากแล้วอย่างนี้
ย่อมเป็นไปเพื่อความสำเร็จในภาวะนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้มรรค นี้ปฏิปทา เป็นไปเพื่อ
ความสำเร็จในความเป็นสหายแห่งเทวดาผู้เข้าถึงวิญญาณัญจายตนภพ ฯ
[๓๓๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ประการอื่นยังมีอีก ภิกษุเป็นผู้ประกอบด้วย ศรัทธา ศีล
สุตะ จาคะ ปัญญา เธอได้ฟังว่า เทวดาผู้เข้าถึงอากิญจัญญายตนภพ ...
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ประการอื่นยังมีอีก ภิกษุเป็นผู้ประกอบด้วยศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ
ปัญญา เธอได้ฟังว่า เทวดาผู้เข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนภพมีอายุยืน ดำรงอยู่นาน มากด้วย
ความสุข เธอมีความปรารถนาอย่างนี้ว่า โอหนอ เราเมื่อตายไปแล้ว พึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่ง
เทวดาผู้เข้าถึงเนวสัญญานา สัญญายตนภพเถิด เธอจึงตั้งจิตนั้น อธิษฐานจิตนั้น เจริญจิตนั้น ความ
ปรารถนาและวิหารธรรมเหล่านั้น อันเธอเจริญแล้วอย่างนี้ ทำให้มากแล้วอย่างนี้ ย่อมเป็น
ไปเพื่อความสำเร็จในภาวะนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้มรรค นี้ปฏิปทา เป็นไปเพื่อความสำเร็จ
ในความเป็นสหายแห่งเทวดาผู้เข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนภพ ฯ
[๓๓๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ประการอื่นยังมีอีก ภิกษุเป็นผู้ประกอบด้วย ศรัทธา ศีล สุตะ
จาคะ ปัญญา เธอมีความปรารถนาอย่างนี้ว่า โอหนอ เราพึงเข้าถึงเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ
อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไปทำให้แจ้งเพราะรู้ยิ่งด้วยตนเอง ในปัจจุบัน
อยู่ เธอจึงเข้าถึงเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ทำ
ให้แจ้งเพราะรู้ยิ่งด้วยตนเอง ในปัจจุบันอยู่ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนี้ย่อมไม่เกิดในที่ไหนๆ ฯ
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระภาษิตนี้แล้ว ภิกษุเหล่านั้นต่างชื่นชมยินดีพระภาษิตของ
พระผู้มีพระภาคแล ฯ
จบ สังขารูปปัตติสูตร ที่ ๑๐
จบ อนุปทวรรค ที่ ๒
_______________