พระสุตตันตปิฎกไทย: 10/177/220
สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค
พระเจ้าทิสัมบดีจึงตรัสว่า ขอท่านโชติปาลมาณพจงสั่ง สอนเรา อย่าบอกคืนในการสั่งสอนเราเลย
เราจักแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทนบิดา จักอภิเษกในตำแหน่งโควินทพราหมณ์ โชติปาลมาณพทูล
รับสนองพระเจ้าทิสัมบดี ว่าอย่างนั้น ขอเดชะ ฯ
ครั้งนั้น พระเจ้าทิสัมบดีทรงอภิเษกโชติปาลมาณพไว้ในตำแหน่ง โควินทพราหมณ์
ทรงแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทนบิดาโชติปาลมาณพผู้อันพระเจ้า ทิสัมบดีทรงอภิเษกในตำแหน่ง
โควินทพราหมณ์ ทรงแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทน บิดาแล้ว ก็สั่งสอนอรรถที่บิดาของเขาสั่งสอน
ไม่สั่งสอนอรรถที่บิดาของเขา ไม่สั่งสอน ย่อมจัดแจงการงานที่บิดาของเขาจัด ไม่จัดแจงการงาน
ที่บิดาของเขา ไม่จัด มนุษย์ทั้งหลายกล่าวกะเขาอย่างนี้ว่า ดูกรท่านผู้เจริญ ท่านโควินทพราหมณ์
หนอ ดูกรท่านผู้เจริญ ท่านมหาโควินทพราหมณ์หนอ ดูกรท่านผู้เจริญ โดยปริยายนี้ นามสมญา
ว่า มหาโควินท์ นั่นแล จึงเกิดมีแก่โชติปาลมาณพ ฯ
[๒๒๐] ดูกรท่านผู้เจริญ ครั้งนั้น มหาโควินทพราหมณ์เข้าเฝ้ากษัตริย์ ๖ พระองค์
ถึงที่ประทับแล้วทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระเจ้าทิสัมบดีทรง พระชราแก่เฒ่า เป็นผู้ใหญ่
ล่วงกาลผ่านวัยแล้ว ใครจะรู้ชีวิต ข้อนี้เป็นฐานะ ที่จะมีได้ เมื่อพระเจ้าทิสัมบดีเสด็จสวรรคต
แล้ว พวกอำมาตย์ผู้สำเร็จราชการ พึงอภิเษกเรณูราชโอรสเป็นพระราชา ท่านผู้เจริญทั้งหลายจงมา
ไป
เฝ้าเรณูราชโอรส กันเถิด แล้วจงทูลอย่างนี้ว่า ข้าพเจ้าทั้งหลาย เป็นสหายที่รักที่เจริญใจ โปรด
ปราน ของท่านเรณู ท่านมีสุขอย่างใด ข้าพเจ้าทั้งหลายก็มีสุขอย่างนั้น ท่านมีทุกข์ อย่างใด
ข้าพเจ้าทั้งหลายก็มีทุกข์อย่างนั้น ข้าแต่ท่าน พระเจ้าทิสัมบดีทรงพระ ชราแก่เฒ่า เป็นผู้ใหญ่
ล่วงกาล ผ่านวัยแล้ว ใครจะรู้ชีวิต ข้อนี้เป็นฐานะ ที่จะมีได้ เมื่อพระเจ้าทิสัมบดีเสด็จสวรรคต
แล้ว พวกอำมาตย์ผู้สำเร็จราชการ พึงอภิเษกท่านเรณูให้เป็นพระราชา ถ้าท่านเรณูพึงได้ราชสมบัติ
ขอจงแบ่งราช สมบัติให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย ฯ
กษัตริย์ทั้ง ๖ พระองค์นั้น รับคำมหาโควินทพราหมณ์แล้ว เข้าไปเฝ้า เรณูราชโอรสถึง
ที่ประทับ แล้วทูลว่า ข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นสหายที่รักที่เจริญใจ โปรดปรานของท่านเรณู ท่านมีสุข
อย่างใด ข้าพเจ้าทั้งหลายก็มีสุขอย่างนั้น ท่าน มีทุกข์อย่างใด ข้าพเจ้าทั้งหลายก็มีทุกข์อย่างนั้น
ดูกรท่านผู้เจริญ พระเจ้าทิสัมบดี ทรงพระชราแก่เฒ่า เป็นผู้ใหญ่ ล่วงกาล ผ่านวัยแล้ว ใครจะ