พระสุตตันตปิฎกไทย: 15/176/573 574 575      
      สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
      
     
 
    
        
          
            ๓. ข้อที่ท่านข่มขี่ด้วยกำลัง แล้วช่วยปลดเปลื้องเรือซึ่งถูกนาคผู้ร้ายกาจ
จับไว้ในกระแสของแม่น้ำคงคา เพราะความเอ็นดูในหมู่มนุษย์ ข้อนั้น
เป็นศีลวัตรเก่าแก่ของท่าน เรายังระลึกได้อยู่ ประดุจหลับแล้วและ
ตื่นขึ้น ฉะนั้น ฯ
๔. และเราได้เป็นอันเตวาสิกของท่าน นามว่ากัปปมาณพเราได้เข้าใจ
ท่านแล้วว่า มีความรู้ชอบ มีวัตร ข้อนั้นเป็นศีลวัตรเก่าแก่ของท่าน
เรายังระลึกได้อยู่ ประดุจหลับแล้วและตื่นขึ้น ฉะนั้น ฯ
พกพรหมทูลว่า
พระองค์ทรงทราบอายุนี้ของข้าพระองค์แน่แท้ แม้สิ่งอื่นๆพระองค์ก็
ทรงทราบได้ เพราะพระองค์เป็นพระพุทธเจ้า ฉะนั้น อานุภาพอันรุ่งโรจน์
ของพระองค์นี้ จึงยังพรหมโลกให้สว่างไสวตั้งอยู่ ฯ
		     อปราทิฏฐิสูตรที่ ๕
 [๕๗๓] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
    สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่าน อนาถบิณฑิก
เศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ฯ
    ก็โดยสมัยนั้นแล พรหมองค์หนึ่งได้เกิดทิฐิอันชั่วช้าเห็นปานดังนี้ว่า สมณะหรือ
พราหมณ์ที่จะพึงมาในพรหมโลกนี้ได้ไม่มีเลย ฯ
 [๕๗๔] ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงทราบความปริวิตกแห่งใจของ พรหมนั้นด้วย
พระทัยแล้ว ทรงหายไปในพระวิหารเชตวันปรากฏแล้วในพรหมโลก นั้นเปรียบเหมือนบุรุษมีกำลัง
พึงเหยียดออกซึ่งแขนที่คู้ไว้ หรือพึงคู้เข้าซึ่งแขนที่  เหยียดออก ฉะนั้น ฯ
    ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคประทับนั่งขัดสมาธิในเวหาเบื้องบนของพรหมนั้น เข้า
เตโชธาตุกสิณแล้ว ฯ
 [๕๗๕] ครั้งนั้นแล ท่านพระมหาโมคคัลลานะได้มีความคิดเช่นนี้ว่า    บัดนี้พระผู้มี
พระภาคประทับอยู่ ณ ที่ไหนหนอ ฯ