พระสุตตันตปิฎกไทย: 25/174/202      
      สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
      
     
 
    
        
          
            อย่างหนึ่งอันภิกษุเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมยึดประโยชน์ทั้ง ๒ ไว้ได้ คือ ประโยชน์ใน
ปัจจุบัน ๑ ประโยชน์ในสัมปรายภพ ๑ธรรมอย่างหนึ่งเป็นไฉน คือ ความไม่ประมาทใน
กุศลธรรมทั้งหลาย ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมอย่างหนึ่งนี้แลอันภิกษุเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว
ย่อมยึดประโยชน์ทั้ง ๒ ไว้ได้ คือ ประโยชน์ในปัจจุบัน ๑ ประโยชน์ในสัมปรายภพ ๑ ฯ
	พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว ในพระสูตรนั้น พระผู้มีพระภาคตรัสคาถา
ประพันธ์ดังนี้ว่า
	บัณฑิตทั้งหลายย่อมสรรเสริญ ความไม่ประมาท ในบุญกิริยาทั้งหลาย
	บัณฑิตไม่ประมาทแล้ว ย่อมยึดประโยชน์ทั้งสองไว้ได้ คือ ประโยชน์
	ในปัจจุบัน ๑ ประโยชน์ในสัมปรายภพ ๑ นักปราชญ์เรากล่าวว่าเป็น
	บัณฑิต เพราะการได้ประโยชน์ทั้ง ๒ นั้น ฯ
เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วฉะนี้แล ฯ
	 จบสูตรที่ ๓
	๔. เวปุลลปัพพตสูตร
 [๒๐๒] จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคผู้เป็น
พระอรหันต์ตรัสแล้ว เพราะเหตุนี้ ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วว่าดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อบุคคลหนึ่ง
แล่นไปท่องเที่ยวไปตลอดกัป ร่างกระดูก หมู่กระดูก กองกระดูก พึงเป็นกองใหญ่ เหมือน
ภูเขาเวปุลลบรรพตนี้ ถ้าว่าใครๆ จะพึงรวบรวมไปกองไว้ และถ้าว่าส่วนแห่งกระดูกอันใครๆ
นำไปแล้วจะไม่พึงฉิบหายไป ฯ
	พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว ในพระสูตรนั้น พระผู้มีพระภาคตรัสคาถา
ประพันธ์ดังนี้ว่า
	พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้แสวงหาคุณอันใหญ่ ตรัสไว้ดังนี้ว่ากองแห่ง
	กระดูกของบุคคลคนหนึ่ง พึงเป็นกองเสมอด้วยภูเขาโดยกัปหนึ่ง ก็
	ภูเขาใหญ่ชื่อเวปุลลบรรพตนี้นั้นแล อันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสบอก