พระสุตตันตปิฎกไทย: 10/174/218
สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ครั้งนั้น เทวดาชั้นดาวดึงส์ ได้กล่าวกะสนัง กุมารพรหมว่า
ข้าแต่ท้าวมหาพรหม ขอโอกาสเถิด ข้าพเจ้าทั้งหลายทราบเนื้อความ นั้นแล้ว ขอโมทนา มีอยู่
พระคุณตามที่เป็นจริง ๘ ประการ ของพระผู้มีพระภาค พระองค์นั้น ที่ท้าวสักกะจอมเทพภาษิตแล้ว
ข้าพเจ้าทั้งหลายทราบแล้วขอ โมทนา ฯ
ครั้งนั้น สนังกุมารพรหมได้กล่าวกะท้าวสักกะจอมเทพว่า ดูกรท่านผู้ จอมเทพ ขอ
โอกาสเถิด แม้เราทั้งหลายก็พึงฟังพระคุณตามที่มีจริง ๘ ประการ ของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น
ท้าวสักกะจอมเทพ รับคำสนังกุมารพรหมแล้ว ทรงยกพระคุณตามที่มีจริง ๘ ประการ ของพระผู้
มีพระภาคขึ้นแสดงว่า ท่านมหา พรหมจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ก็พระผู้มีพระภาคพระองค์
นั้น ทรงปฏิบัติ เพื่อเกื้อกูลแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อความสุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อความสุขแก่
ชนเป็นอันมาก เพื่ออนุเคราะห์โลก เพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุขแก่เทวดาและมนุษย์
ทั้งหลาย เพียงไร ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นพระศาสดาผู้ประกอบด้วยองค์คุณเช่นนี้ ผู้ปฏิบัติเพื่อเกื้อกูล
แก่ ชนเป็นอันมากเพื่อความสุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่ออนุเคราะห์โลก เพื่อประโยชน์ เพื่อ
เกื้อกูล เพื่อความสุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายอย่างนี้ ในอดีตกาลเลย ถึงในบัดนี้ก็ไม่เห็น นอก
จาก
พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ฯ
อนึ่ง พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นตรัสดีแล้ว อันบุคคลพึงเห็นเอง ไม่
ประกอบด้วยกาล ควรเรียกให้มาดู ควรน้อมเข้ามาในตน อันวิญญู ชนพึงรู้เฉพาะตน ข้าพเจ้า
ไม่เคยเห็นพระศาสดาผู้ประกอบด้วยองค์คุณเช่นนี้ ผู้ ทรงแสดงธรรมอันควรน้อมเข้ามาในตน
อย่างนี้ ในอดีตกาลเลย ถึงในบัดนี้ก็ไม่ เห็นนอกจากพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ฯ
อนึ่ง พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ทรงบัญญัติไว้ดีแล้วว่า นี้กุศล นี้ อกุศล นี้มีโทษ
นี้ไม่มีโทษ นี้ควรเสพ นี้ไม่ควรเสพ นี้เลว นี้ประณีต นี้มี ส่วนเทียบด้วยธรรมดำและธรรมขาว
ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นพระศาสดา ผู้ประกอบ ด้วยองค์คุณเช่นนี้ ทรงบัญญัติธรรมอันเป็นกุศล อกุศล
มีโทษ ไม่มีโทษ ควรเสพ ไม่ควรเสพ เลว ประณีต มีส่วนเทียบด้วยธรรมดำและธรรมขาว
อย่างนี้ ใน อดีตกาลเลย ถึงในบัดนี้ก็ไม่เห็น นอกจากพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ฯ