พระสุตตันตปิฎกไทย: 23/172/118
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
พลสูตรที่ ๒
[๑๑๘] ครั้งนั้นแล ท่านพระสารีบุตรเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคม
พระผู้มีพระภาคแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง พระผู้มีพระภาคได้ตรัสถามท่านพระสารีบุตรว่า
ดูกรสารีบุตร กำลังของภิกษุผู้ขีณาสพมีเท่าไร ที่เป็นเหตุให้เธอผู้ประกอบแล้วปฏิญาณความสิ้นไป
แห่งอาสวะทั้งหลายได้ว่า อาสวะทั้งหลายของเราสิ้นแล้ว ฯ
ท่านพระสารีบุตรกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ กำลังของภิกษุผู้ขีณาสพ ๘ ประการ
ที่เป็นเหตุให้ท่านผู้ประกอบแล้วปฏิญาณความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลายได้ว่า อาสวะทั้งหลาย
ของเราสิ้นแล้ว ๘ ประการเป็นไฉนข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ภิกษุผู้ขีณาสพในธรรมวินัยนี้
เห็นสังขารทั้งปวงแจ่มแจ้งโดยความเป็นของไม่เที่ยง ด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง
ข้อที่ภิกษุผู้ขีณาสพเห็นสังขารทั้งปวงแจ่มแจ้ง โดยความเป็นของไม่เที่ยง ด้วยปัญญาอันชอบตาม
เป็นจริงนี้เป็นกำลังของภิกษุผู้ขีณาสพ ที่ท่านอาศัยแล้วปฏิญาณความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย
ได้ว่า อาสวะทั้งหลายของเราสิ้นแล้ว ๑ ฯ
อีกประการหนึ่ง ภิกษุผู้ขีณาสพเห็นกามทั้งหลายว่าเปรียบด้วยหลุมถ่านเพลิง แจ่มแจ้ง
ด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง ข้อที่ภิกษุผู้ขีณาสพเห็นกามทั้งหลายว่าเปรียบด้วยหลุมถ่านเพลิง
แจ่มแจ้งด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง นี้เป็นกำลังของภิกษุผู้ขีณาสพที่ท่านอาศัยแล้วปฏิญาณ
ความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลายได้ว่าอาสวะทั้งหลายของเราสิ้นแล้ว ๑ ฯ
อีกประการหนึ่ง ภิกษุผู้ขีณาสพมีจิตน้อมไป โน้มไป โอนไปในวิเวก ตั้งอยู่ในวิเวก
ยินดีแล้วในเนกขัมมะ ปราศจากอาสวัฏฐานิยธรรมโดยประการ ทั้งปวง ข้อที่ภิกษุผู้ขีณาสพมีจิต
น้อมไป ฯลฯ ปราศจากอาสวัฏฐานิยธรรมโดยประการทั้งปวง นี้เป็นกำลังของภิกษุผู้ขีณาสพ
ที่ท่านอาศัยแล้วปฏิญาณความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลายได้ว่า อาสวะทั้งหลายของเราสิ้นแล้ว ๑ ฯ
อีกประการหนึ่ง ภิกษุผู้ขีณาสพเจริญสติปัฏฐาน ๔ อบรมดีแล้ว ข้อที่ภิกษุผู้ขีณาสพ
เจริญสติปัฏฐาน ๔ อบรมดีแล้ว นี้เป็นกำลังของภิกษุผู้ขีณาสพ ที่ท่านอาศัยแล้วปฏิญาณความ
สิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลายได้ว่า อาสวะทั้งหลายของเราสิ้นแล้ว ๑ ฯ