พระสุตตันตปิฎกไทย: 10/172/213 214 215 216
สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค
พึงอุบัติในโลกธาตุเดียวกัน ไม่ก่อนไม่หลังนี้ ไม่ใช่ ฐานะ ไม่ใช่โอกาส ข้อนี้ไม่ใช่ฐานะที่จะมี
ได้ ดูกรท่านผู้นิรทุกข์ทั้งหลาย ขอ ให้สมความหวัง ขอพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น มีพระอาพาธ
น้อย มีพระโรคเบา บาง พึงดำรงอยู่ตลอดกาลนาน ข้อนั้นก็จะพึงเป็นไปเพื่อเกื้อกูลแก่ชนเป็น
อันมาก เพื่อความสุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่ออนุเคราะห์โลก เพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล เพื่อ
ความสุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ฯ
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ครั้งนั้น เทวดาชั้นดาวดึงส์ นั่งประชุมกันใน สุธรรมาสภาด้วย
ความประสงค์อันใด ท้าวจาตุมหาราช แม้อันเทวดาชั้นดาวดึงส์ คิดความนั้น ปรึกษาความนั้นแล้ว
ทูลให้ทราบก็มีอยู่ในข้อประสงค์นั้น แม้จะรับ คำสั่งกำชับแล้ว ก็มีอยู่ในข้อประสงค์นั้น
ประทับอยู่บนอาสนะของตนๆ ยัง ไม่ไป ฯ
[๒๑๓] ท้าวจาตุมหาราชเหล่านั้นรับคำแล้ว รับคำพร่ำสอนแล้ว มีใจ ผ่องใส
ประทับสงบอยู่บนอาสนะของตนๆ ฯ
[๒๑๔] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ครั้งนั้น แสงสว่างอย่างมากปรากฏใน ทิศอุดร โอภาส
ปรากฏล่วงเทวานุภาพของเทวดาทั้งหลายลำดับนั้น ท้าวสักกะ จอมเทพจึงตรัสเรียกเทวดาชั้นดาว
ดึงส์มาว่า ดูกรท่านผู้นิรทุกข์ทั้งหลาย นิมิต ปรากฏ แสงสว่างเกิด โอภาสปรากฏ ฉันใด
พรหมจักปรากฏ ฉันนั้น การ ที่แสงสว่างเกิด โอภาสปรากฏนี้ เป็นบุพพนิมิตที่พรหมจะปรากฏ ฯ
[๒๑๕] นิมิตปรากฏ ฉันใด พรหมจักปรากฏ ฉันนั้นการที่ โอภาสอัน
ไพบูลย์มากปรากฏนี้ เป็นบุพพนิมิตที่พรหมจะ ปรากฏ ฯ
[๒๑๖] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ครั้งนั้น เทวดาชั้นดาวดึงส์นั่งบนอาสนะ ตามที่ของตนๆ
ด้วยความหวังว่า เราทั้งหลายจักรู้โอภาสนี้ วิบากอันใดจักมี เราทั้งหลายจักทำวิบากนั้นให้แจ้ง
เสียก่อน แล้วจึงจะไป แม้ท้าวจาตุมหาราชก็นั่ง อยู่บนอาสนะตามที่ของตนๆ ด้วยความหวังว่า
เราทั้งหลายจักรู้โอภาสนี้ วิบาก อันใดจักมี เราทั้งหลายจักทำวิบากนั้นให้แจ้งเสียก่อน แล้วจึงจะ
ไปเทวดาชั้น ดาวดึงส์ ฟังความข้อนี้แล้วไม่ระส่ำระสาย สงบอยู่ ด้วยหวังกันว่า เราทั้งหลาย
รู้โอภาสนี้ วิบากอันใดจักมี เราทั้งหลายจักทำวิบากนั้นให้แจ้งเสียก่อน แล้ว จึงจะไป ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญเมื่อใดสนังกุมารพรหมปรากฏแก่เทวดาชั้นดาวดึงส์ เมื่อนั้น สนังกุมารพรหม
นิรมิตอัตตภาพอันยิ่งใหญ่ปรากฏ ก็วรรณปรกติของพรหม อันเทวดาเหล่าอื่นไม่พึงถึง ปรากฏใน