พระสุตตันตปิฎกไทย: 16/171/407 408
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค
เราได้แสวงหาความแช่มชื่นแห่งอาโปธาตุ ฯลฯ เราได้แสวงหาความแช่มชื่นแห่ง
เตโชธาตุ ฯลฯ เราได้แสวงหาความแช่มชื่นแห่งวาโยธาตุ ได้พบความแช่มชื่นแห่งวาโยธาตุ
นั้นแล้ว เราได้เห็นความแช่มชื่นแห่งวาโยธาตุเท่าที่มีอยู่ด้วยดีแล้ว ด้วยปัญญา เราได้เที่ยว
แสวงหาโทษแห่งวาโยธาตุ ได้พบโทษแห่งวาโยธาตุนั้นแล้ว เราได้เห็นโทษแห่งวาโยธาตุ
เท่าที่มีอยู่ด้วยดีแล้วด้วยปัญญา เราได้แสวงหาเครื่องสลัดออกแห่งวาโยธาตุ ได้พบเครื่องสลัดออก
แห่งวาโยธาตุนั้นแล้ว เราได้เห็นเครื่องสลัดออกแห่งวาโยธาตุเท่าที่มีอยู่ด้วยดีแล้วด้วยปัญญา ฯ
[๔๐๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตราบเท่าที่เรายังไม่ได้ทราบชัดตามความเป็นจริง ซึ่งความ
แช่มชื่นซึ่งโทษโดยความเป็นโทษ ซึ่งเครื่องสลัดออกโดยความเป็นเครื่องสลัดออก แห่ง
ธาตุทั้ง ๔ เหล่านี้เพียงใด เราก็ยังปฏิญาณไม่ได้ว่า เป็นผู้ได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ
ในโลก พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์
เทวดาและมนุษย์เพียงนั้น แต่เมื่อใด เราได้ทราบชัดตามความเป็นจริง ซึ่งความแช่มชื่นโดย
เป็นความแช่มชื่น ซึ่งโทษโดยความเป็นโทษ ซึ่งเครื่องสลัดออกโดยความเป็นเครื่องสลัดออก
แห่งธาตุทั้ง ๔ เหล่านี้ เมื่อนั้น เราจึงปฏิญาณว่าเป็นผู้ได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ
ในโลก พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลกในหมู่สัตว์ พร้อมทั้งสมณพราหมณ์
เทวดาและมนุษย์ อนึ่ง ญาณทัสสนะได้เกิดขึ้นแก่เราว่า วิมุตติของเราไม่กำเริบ ชาตินี้
เป็นชาติที่สุด บัดนี้ การเกิดอีกย่อมไม่มี ดังนี้ ฯ
จบสูตรที่ ๓
๔. โนเจทสูตร
[๔๐๘] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี
เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย ... แล้วได้ตรัสว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าว่าความแช่มชื่นแห่งปฐวีธาตุไม่ได้มีแล้วไซร้ สัตว์ทั้งหลายไม่พึงยินดีใน
ปฐวีธาตุ ก็เพราะความแช่มชื่นแห่งปฐวีธาตุมีอยู่แล ฉะนั้นสัตว์ทั้งหลายจึงยินดีในปฐวีธา
ตุ ถ้าว่าโทษแห่งปฐวีธาตุไม่ได้มีแล้วไซร้ สัตว์ทั้งหลายก็ไม่พึงเบื่อหน่ายในปฐวีธาตุ ก็เพราะโทษ