พระสุตตันตปิฎกไทย: 32/170/122
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
ท่านต้องการจะถอนข้าพระองค์ขึ้น จึงมาในสำนักของข้าพระองค์ กล่าวว่า
จะโศกเศร้าทำไมหนอ อย่ากลัวเลย จงประพฤติธรรมเถิด ท่านผู้มีเมธาดี
พระพุทธเจ้าทรงส่งเสริมวิทยาสมบัติของชนทั้งปวงว่า ผู้ใดพึงบูชาพระ
สัมพุทธเจ้าผู้เป็นนายกของโลก ยังดำรงพระชนม์อยู่ก็ดี พึงบูชาพระธาตุ
แม้ประมาณเท่าเมล็ดผักกาดของพระพุทธเจ้า แม้นิพพานแล้วก็ดี เมื่อ
จิตอันเลื่อมใสของผู้นั้นเสมอกัน บุญก็มีผลมากเสมอกัน เพราะฉะนั้น
ท่านจงทำสถูปบูชาพระธาตุของพระชินเจ้าเถิด ข้าพระองค์ได้ฟังวาจาของ
ท่านสาคระแล้ว ได้ทำพุทธสถูป ข้าพระองค์บำรุงพระสถูปอันอุดมของ
พระมุนีอยู่ ๕ ปี ข้าแต่พระองค์ผู้จอมสัตว์ เชษฐบุรุษของโลก ประเสริฐ
กว่านระ ด้วยกรรมนั้น ข้าพระองค์เสวยสมบัติแล้ว ได้บรรลุอรหัต
ในกัลปที่ ๗๐๐ แต่กัลปนี้ ได้มีพระเจ้าจักรพรรดิ ๔ พระองค์ มีพระ
นามว่าภูริปัญญา ทรงสมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ มีพลมาก คุณวิเศษ
เหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ ข้าพระองค์ทำ
ให้แจ้งชัดแล้ว พระพุทธศาสนา ข้าพระองค์ได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระปัจจุปัฏฐานสัญญกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
จบ ปัจจุปัฏฐานสัญญกเถราปทาน.
ชาติปูชกเถราปทานที่ ๑๐ (๑๒๐)
ว่าด้วยผลแห่งการบูชาพระชาติ
[๑๒๒] เมื่อพระวิปัสสีโพธิสัตว์ประสูติจากพระครรภ์ แสงสว่างได้มีอย่างไพบูลย์
และพื้นแผ่นดิน พร้อมทั้งสมุทรสาครและภูเขาก็หวั่นไหว อนึ่ง พวก
หมอดูพยากรณ์ว่า พระพุทธเจ้าจักมีในโลก เป็นผู้เลิศกว่าสรรพสัตว์
จักรื้อถอนหมู่ชน (จากสังสารทุกข์) เราได้ฟังคำของพวกหมอดูแล้ว
ได้ทำการบูชาพระชาติด้วยความดำริว่า การบูชาพระชาติเช่นนี้นั้นไม่มี
(อีก) เรารวบรวมกุศลแล้ว ได้ยังจิตของตนให้เลื่อมใส ครั้นเราทำการ