พระสุตตันตปิฎกไทย: 15/167/554      
      สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
      
     
 
    
        
          
                     สัตว์นี้ ใครสร้าง ผู้สร้างสัตว์อยู่ที่ไหน สัตว์บังเกิดใน
         ที่ไหน สัตว์ดับไปในที่ไหน ฯ
 [๕๕๔] ลำดับนั้น วชิราภิกษุณีได้มีความดำริว่า นี่ใครหนอกล่าวคาถา  จะเป็นมนุษย์
หรืออมนุษย์ ฯ
    ทันใดนั้น วชิราภิกษุณีได้มีความดำริว่า นี่คือมารผู้มีบาปใคร่จะให้เรา   บังเกิดความกลัว
ความหวาดเสียว ความขนพองสยองเกล้า และใคร่จะให้เคลื่อน  จากสมาธิ จึงกล่าวคาถา ฯ
    ครั้นวชิราภิกษุณีทราบว่า นี่คือมารผู้มีบาป แล้วจึงได้กล่าวกะมารผู้มีบาป  ด้วยคาถาว่า
         ดูกรมาร เพราะเหตุไรหนอ ความเห็นของท่านจึงหวนกลับ  มาว่าสัตว์ ฯ
         ในกองสังขารล้วนนี้ ย่อมไม่ได้นามว่าสัตว์ ฯ
         เหมือนอย่างว่า เพราะคุมส่วนทั้งหลายเข้า เสียงว่ารถย่อมมี  ฉันใด ฯ
         เมื่อขันธ์ทั้งหลายยังมีอยู่ การสมมติว่าสัตว์ย่อมมี ฉันนั้น ฯ
         ความจริงทุกข์เท่านั้นย่อมเกิด ทุกข์ย่อมตั้งอยู่และเสื่อมสิ้นไป นอกจากทุกข์
        ไม่มีอะไรเกิด นอกจากทุกข์ ไม่มี   อะไรดับ ฯ
    ลำดับนั้น มารผู้มีบาปเป็นทุกข์ เสียใจว่า วชิราภิกษุณีรู้จักเรา ดังนี้   จึงได้อันตรธานไปใน
ที่นั้นเอง ฯ
		       จบภิกษุณีสังยุต
		       _______
 รวมพระสูตรในภิกขุนีสังยุตนี้มี ๑๐ สูตร คือ
        อาฬวิกาสูตรที่ ๑ โสมาสูตรที่ ๒ โคตมีสูตรที่ ๓ วิชยาสูตรที่ ๔   อุบลวรรณาสูตรที่ ๕
จาลาสูตรที่ ๖ อุปจาลาสูตรที่ ๗ สีสุปจาลาสูตรที่ ๘   เสลาสูตรที่ ๙ กับวชิราสูตรครบ ๑๐ ฯ
		       _______