พระสุตตันตปิฎกไทย: 10/162/197 198

สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค
เล่ม 10
หน้า 162

[๑๙๗] ดูกรท่านผู้เจริญ เทวดาชั้นดาวดึงส์พร้อมด้วยพระอินทร์ ย่อมบันเทิงใจ ถวายนมัสการพระตถาคต และความที่พระธรรมเป็น ธรรมดี เห็นเทวดาผู้ ใหม่ๆ ผู้มีวรรณะ มียศ ประพฤติพรหมจรรย์ในพระสุคตแล้วมาในที่นี้ เทวดาเหล่านั้นเป็นสาวกของ พระพุทธเจ้า ผู้ทรงพระปัญญากว้างขวาง บรรลุ คุณวิเศษแล้วย่อมรุ่งเรืองล่วงเทวดาเหล่าอื่น ณ ที่นี้ด้วยวรรณะ ด้วยยศ และอายุ เทวดาชั้นดาวดึงส์ พร้อมด้วยพระอินทร์เห็นเช่นนี้แล้ว ย่อมยินดี ถวายนมัสการพระตถาคต และความที่พระธรรมเป็น ธรรมดี ฯ
[๑๙๘] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สนังกุมารพรหมได้กล่าวเนื้อความนี้ เสียง ของสนัง กุมารพรหมผู้กล่าวเนื้อความนี้ ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ คือแจ่มใส ๑ ชัดเจน ๑ นุ่มนวล ๑ น่าฟัง ๑ กลมกล่อม ๑ ไม่พร่า ๑ ลึก ๑ มีกังวาน ๑ ฯ ก็สนังกุมารพรหมย่อมยังบริษัทเท่าใดให้ทราบเนื้อความด้วยเสียงของตน กระแสเสียง ก็ไม่แพร่ไปในภายนอกบริษัทเท่านั้น ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เสียงของ ผู้ใดประกอบด้วยองค์ ๘ ประการอย่างนี้ ผู้นั้นท่านเรียกว่า มีเสียงเพียงดังเสียง พรหม ฯ ครั้งนั้น สนังกุมารพรหมนิรมิตอัตภาพ ๓๓ อัตภาพ นั่งอยู่บนบัลลังก์ ของเทวดาชั้น ดาวดึงส์ทุกๆ บัลลังก์ แล้วเรียกเทวดาชั้นดาวดึงส์มากล่าวว่า เทวดา ชั้นดาวดึงส์ผู้เจริญ จะ สำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ก็พระผู้มีพระภาคพระองค์นี้ ทรงปฏิบัติเพื่อเกื้อกูลแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อสุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่ออนุเคราะห์ โลก เพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุข แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายเพียงไร ชนเหล่าใด นับถือพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง นับถือพระธรรม เป็นที่พึ่ง นับถือพระ สงฆ์เป็นที่พึ่ง บำเพ็ญศีลให้บริบูรณ์ ชนเหล่านั้นเบื้องหน้า แต่ตายเพราะ กายแตก บางพวกถึงความเป็นสหายของเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัดดี บางพวกถึงความเป็น สหาย ของเทวดาชั้นนิมมานรดี บางพวกถึงความเป็นสหายของเทวดาชั้นดุสิต บาง พวกถึงความเป็น สหายของเทวดาชั้นยามะ บางพวกถึงความเป็นสหายของเทวดา ชั้นดาวดึงส์ บางพวกถึงความ เป็นสหายของเทวดาชั้นจาตุมหาราช เหล่าใดยังกาย ให้บริบูรณ์ เลวกว่าเขาหมด เหล่านั้นย่อม เพิ่มจำนวนหมู่เทพคนธรรพ์ ฯ