พระสุตตันตปิฎกไทย: 16/150/360 361 362 363
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค
[๓๖๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุรุษพึงวางคบหญ้าที่ไฟติดแล้วในป่าหญ้าแห้ง เขาจึงรีบดับ
คบนั้นเสียด้วยมือและเท้า ก็เมื่อเป็นเช่นนี้สัตว์ มีชีวิตทั้งหลายบรรดาที่อาศัยหญ้าและไม้อยู่
ไม่พึงถึงความพินาศฉิบหาย แม้ฉันใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมณะหรือพราหมณ์คนใดคนหนึ่ง
ก็ฉันนั้นเหมือนกัน รีบละ รีบบรรเทา รีบทำให้หมด รีบทำให้ไม่มีซึ่งอกุศลสัญญาที่ก่อกวน
อันบังเกิดขึ้นแล้วเขาย่อมอยู่เป็นสุข ไม่มีความอึดอัด ความคับแค้น ความเร่าร้อน ในปัจจุบัน
เบื้องหน้าแต่มรณะ เพราะกายแตก พึงหวังสุคติได้ ฯ
จบสูตรที่ ๒
๓. คิญชกาวสถสูตร
[๓๖๑] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระตำหนักที่สร้างด้วยอิฐ ใกล้หมู่บ้านของ
พระญาติ ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้น
ทูลรับพระผู้มีพระภาคว่า พระพุทธเจ้าข้า ดังนี้พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย
สัญญาบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยธาตุทิฐิบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยธาตุ วิตกบังเกิดขึ้นเพราะอาศัยธาตุ ฯ
[๓๖๒] เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว ท่านพระกัจจานะได้ทูลถามพระผู้มีพระภาค
ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ทิฐิที่ว่า พระสัมมาสัมพุทธะในบุคคลที่มิใช่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ดังนี้ ย่อมปรากฏเพราะอาศัยอะไร ฯ
[๓๖๓] พ. ดูกรกัจจานะ ธาตุคืออวิชชานี้ เป็นธาตุใหญ่แล ดูกรกัจจานะ สัญญาที่เลว
ทิฐิที่เลว วิตกที่เลว เจตนาที่เลว ความปรารถนาที่เลวความตั้งใจที่เลว บุคคลที่เลว วาจา
ที่เลว บังเกิดขึ้นเพราะอาศัยธาตุที่เลวบุคคลที่เลวนั้น ย่อมบอก ย่อมแสดง ย่อมบัญญัติ
ย่อมแต่งตั้ง ย่อมเปิดเผยย่อมจำแนก ย่อมทำให้ตื้น ซึ่งธรรมที่เลว เรากล่าวว่า อุปบัติของ
บุคคลที่เลวนั้นย่อมเลว ดูกรกัจจานะ สัญญาที่ปานกลาง ทิฐิที่ปานกลาง วิตกที่ปานกลาง
เจตนาที่ปานกลาง ความปรารถนาที่ปานกลาง ความตั้งใจที่ปานกลาง บุคคลที่ปานกลาง วาจาที่
ปานกลาง บังเกิดขึ้นเพราะอาศัยธาตุที่ปานกลาง บุคคลที่ปานกลางนั้น ย่อมบอก ย่อมแสดง
ย่อมบัญญัติ ย่อมแต่งตั้ง ย่อมเปิดเผย ย่อมจำแนก ย่อมทำให้ตื้น ซึ่งธรรมที่ปานกลาง เรา