พระสุตตันตปิฎกไทย: 23/149/105 106      
      สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
      
     
 
    
        
          
                                       มลสูตร
 [๑๐๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย มลทิน ๘ ประการนี้ ๘ ประการเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย
มนต์มีการไม่ท่องบ่นเป็นมลทิน ๑ เรือนมีความไม่หมั่นเป็นมลทิน ๑ ความเกียจคร้านเป็นมลทิน
ของผิวพรรณ ๑ ความประมาทเป็นมลทินของผู้รักษา ๑ ความประพฤติชั่วเป็นมลทินของหญิง ๑
ความตระหนี่เป็นมลทินของผู้ให้ ๑ อกุศลธรรมที่ลามกเป็นมลทินแท้ทั้งโลกนี้และโลกหน้า ๑
เราจะบอกมลทินที่ยิ่งกว่ามลทินนั้น คือ อวิชชาเป็นมลทินอย่างยิ่ง ดูกรภิกษุทั้งหลายมลทิน ๘
ประการนี้แล ฯ
           มนต์มีการไม่ท่องบ่นเป็นมลทิน เรือนมีความไม่หมั่นเป็น
           มลทิน ความเกียจคร้านเป็นมลทินของผิวพรรณ ความ
           ประมาทเป็นมลทินของผู้รักษา ความประพฤติชั่วเป็นมลทิน
           ของหญิง ความตระหนี่เป็นมลทินของผู้ให้ ธรรมอันลามก
           เป็นมลทินแท้ ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า เราจะบอกมลทินที่
           ยิ่งกว่านั้น คือ อวิชชาเป็นมลทินอย่างยิ่ง ฯ
                          จบสูตรที่ ๕
                           ทูตสูตร
 [๑๐๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๘ ประการ ควรไปเป็นทูตได้
ธรรม ๘ ประการเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้เป็นผู้รับฟัง ๑ ให้ผู้อื่นรับฟัง ๑
เรียนดี ๑ ทรงจำไว้ดี ๑ รู้เอง ๑ ให้ผู้อื่นรู้ ๑เป็นผู้ฉลาดต่อสิ่งที่มีประโยชน์และไม่มี
ประโยชน์ ๑ ไม่ก่อการทะเลาะ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๘ ประการนี้แล
ควรไปเป็นทูตได้ ฯ
     ดูกรภิกษุทั้งหลาย สารีบุตรประกอบด้วยธรรม ๘ ประการ ควรไปเป็นทูตได้ ธรรม ๘
ประการเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย สารีบุตรในธรรมวินัยนี้เป็นผู้รับฟัง ๑ ให้ผู้อื่นรับฟัง ๑