พระสุตตันตปิฎกไทย: 20/145/489 490

สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
เล่ม 20
หน้า 145
ภูเขาศิลามีอยู่ในป่าใหญ่ หมู่ไม้ได้อาศัยภูเขานั้น เจริญงอกงามเติบโต อยู่ในป่า ฉันใด บรรดาบุตรภรรยา เผ่าพันธุ์อำมาตย์ หมู่ญาติและ เหล่าชนผู้พึ่งพำนักเลี้ยงชีพ ต่างอาศัยพ่อบ้านแม่เรือนผู้มีศรัทธา ถึง พร้อมด้วยศีล เจริญอยู่ฉันนั้น ผู้ที่มีปัญญาเป็นเครื่องพิจารณาเห็นศีล จาคะและสุจริต ของพ่อบ้านแม่เรือนผู้มีศีลนั้นเข้า ต่างก็พากันทำตาม บุคคลประพฤติธรรม คือ ทางที่ยังสัตว์ให้ไปสุคติไว้ในโลกนี้แล้ว ย่อม เป็นผู้เพลิดเพลิน สมประสงค์ที่น่าใคร่บันเทิงอยู่ในเทวโลก ฯ อาตัปปสูตร
[๔๘๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลควรทำความเพียรเครื่องเผากิเลสด้วยเหตุ ๓ ประการ ๓ ประการเป็นไฉน คือเพื่อความไม่เกิดขึ้นแห่งธรรมที่เป็นบาปอกุศลซึ่งยังไม่เกิด ๑ เพื่อ ความเกิดขึ้นแห่งธรรมที่เป็นกุศลซึ่งยังไม่เกิด ๑เพื่ออดกลั้นทุกขเวทนาอันมีในสรีระซึ่งเกิดขึ้น แล้ว กล้า แข็ง เผ็ดร้อน ไม่น่ายินดี ไม่น่าชอบใจ อาจนำเอาชีวิตไป ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะว่าภิกษุทำความเพียรเครื่องเผากิเลส เพื่อความไม่เกิดขึ้นแห่งธรรมที่เป็นบาปอกุศลซึ่งยังไม่ เกิดเพื่อความเกิดขึ้นแห่งธรรมที่เป็นกุศลซึ่งยังไม่เกิด เพื่ออดกลั้นทุกขเวทนาอันมีในสรีระซึ่ง เกิดขึ้นแล้ว กล้า แข็ง เผ็ดร้อน ไม่น่ายินดี ไม่น่าชอบใจ อาจนำเอาชีวิตไป ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนี้เราเรียกว่า มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีปัญญาเครื่องรักษาตน มีสติเพื่อทำที่สุดแห่ง ทุกข์โดยชอบ ฯ มหาโจรสูตร
[๔๙๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย มหาโจรประกอบด้วยองค์ ๓ ประการ ย่อมย่องเบาบ้าง ปล้นบ้าง ทำการล้อมเรือนหลังเดียวแล้วปล้นบ้าง คอยดักชิงเอาที่ทางเปลี่ยวบ้าง องค์ ๓ ประการ