พระสุตตันตปิฎกไทย: 20/143/483 484 485

สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
เล่ม 20
หน้า 143
อรรถด้วย รู้แจ้งธรรมด้วย ๑ ผู้ฟังธรรมรู้แจ้งอรรถด้วย รู้แจ้งธรรมด้วย ๑ ผู้แสดงธรรมและ ผู้ที่ฟังธรรมทั้งสองฝ่าย รู้แจ้งอรรถด้วย รู้แจ้งธรรมด้วย ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้ที่พิจารณาเห็น อำนาจประโยชน์ ๓ ประการนี้แล ควรอย่างยิ่งที่จะแสดงธรรมแก่คนอื่นๆ ฯ ปเรสสูตร
[๔๘๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุ ๓ ประการ การเจรจาธรรมเป็นไปได้ด้วยดี เหตุ ๓ ประการเป็นไฉน คือ ผู้แสดงธรรมรู้แจ้งอรรถด้วย รู้แจ้งธรรมด้วย ๑ ผู้ฟังธรรม รู้แจ้งอรรถด้วย รู้แจ้งธรรมด้วย ๑ ผู้แสดงธรรมและผู้ ฟังธรรมทั้งสองฝ่าย รู้แจ้งอรรถด้วย รู้แจ้งธรรมด้วย ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลายเพราะ เหตุ ๓ ประการนี้แล เรื่องราวจึงเป็นไปได้ ฯ ปัณฑิตสูตร
[๔๘๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๓ ประการนี้ บัณฑิตได้บัญญัติไว้ สัตบุรุษได้ บัญญัติไว้ ธรรม ๓ ประการเป็นไฉน คือ ทาน ๑ บรรพชา ๑ มาตาปิตุอุปัฏฐาน ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๓ ประการนี้แล บัณฑิตบัญญัติไว้ สัตบุรุษบัญญัติไว้ ฯ ทาน การไม่เบียดเบียน ความสำรวม การฝึกตน การบำรุงมารดา และบิดา สัตบุรุษบัญญัติไว้ เหตุที่บัณฑิตเสพ เป็นเหตุของสัตบุรุษ ผู้เป็นคนดี เป็นพรหมจารีบุคคล ผู้ที่เป็นอริยสมบูรณ์ด้วยทัศนะ ย่อมคบโลกอันเกษม ฯ ศีลสูตร
[๔๘๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรพชิตผู้มีศีล เข้าไปอาศัยบ้านหรือนิคมใดอยู่ มนุษย์ใน บ้านหรือนิคมนั้น ย่อมประสบบุญเป็นอันมากด้วยเหตุ ๓ประการ ๓ ประการเป็นไฉน คือ