พระสุตตันตปิฎกไทย: 21/142/158 159
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต
[๑๕๘] ณ ที่นั้นแล ท่านพระสารีบุตรเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลายผู้มีอายุ
ภิกษุเหล่านั้นรับคำของท่านพระสารีบุตรแล้ว ท่านพระสารีบุตรได้กล่าวว่า ดูกรท่านผู้มีอายุทั้งหลาย
ผู้ใดผู้หนึ่งจะเป็นภิกษุหรือภิกษุณีก็ตามพิจารณาเห็นธรรม ๔ ประการในตน ผู้นั้นพึงถึงความตกลง
ใจในข้อนี้ว่า เราย่อมเสื่อมจากกุศลธรรมทั้งหลาย การมีธรรม ๔ ประการอยู่ในตนนี้ พระผู้มีพระภาค
ตรัสว่าเป็นความเสื่อม ธรรม ๔ ประการเป็นไฉน คือ ความเป็นผู้มีราคะ ไพบูลย์ ๑ ความเป็น
ผู้มีโทสะไพบูลย์ ๑ ความเป็นผู้มีโมหะไพบูลย์ ๑ และไม่มีปัญญาจักษุก้าวไปในฐานะ และอฐานะอัน
ลึกซึ้ง ๑ ดูกรท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ผู้ใดผู้หนึ่งจะเป็นภิกษุหรือภิกษุณีก็ตาม ย่อมพิจารณาเห็นธรรม
๔ ประการนี้ในตน ผู้นั้นพึงถึงความตกลงใจในข้อนี้ว่า เราย่อมเสื่อมจากกุศลธรรมทั้งหลาย การมี
ธรรม ๔ ประการอยู่ในตนนี้ พระผู้มีพระภาคตรัสว่าเป็นความเสื่อม ดูกรท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ผู้ใด
ผู้หนึ่งจะเป็นภิกษุหรือภิกษุณีก็ตาม พิจารณาเห็นธรรม ๔ ประการในตนผู้นั้นพึงถึงความตกลงใจ
ในข้อนี้ว่า เราไม่เสื่อมจากกุศลธรรมทั้งหลาย การมีธรรม ๔ ประการอยู่ในตนนี้ พระผู้มีพระภาค
ตรัสว่าไม่เป็นความเสื่อม ธรรม๔ ประการเป็นไฉน คือ ความเป็นผู้มีราคะเบาบาง ๑ ความเป็น
ผู้มีโทสะเบาบาง ๑ ความเป็นผู้มีโมหะเบาบาง ๑ และมีปัญญาจักษุก้าวไปในฐานะและอฐานะอัน
ลึกซึ้ง ๑ ดูกรท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ผู้ใดผู้หนึ่งจะเป็นภิกษุหรือภิกษุณีก็ตาม พิจารณาเห็นธรรม
๔ ประการนี้ในตน ผู้นั้นพึงถึงความตกลงใจในข้อนี้ว่า เราไม่เสื่อมจากกุศลธรรมทั้งหลาย การมี
ธรรม ๔ ประการอยู่ในตนนี้พระผู้มีพระภาคตรัสว่าไม่เป็นความเสื่อม ฯ
[๑๕๙] สมัยหนึ่ง ท่านพระอานนท์อยู่ ณ โฆสิตาราม ใกล้เมืองโกสัมพี ครั้งนั้นแล
ภิกษุณีรูปหนึ่งเรียกบุรุษคนหนึ่งมาว่า บุรุษผู้เจริญ พ่อจงมา พ่อจงเข้าไปหาพระผู้เป็นเจ้าอานนท์
จงไหว้เท้าพระผู้เป็นเจ้าอานนท์ด้วยเศียรเกล้า ตามคำของเราว่า ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าผู้เจริญ ภิกษุณี
ชื่อนี้กำลังอาพาธ ได้รับทุกข์เป็นไข้หนัก นางย่อมไหว้เท้าของพระผู้เป็นเจ้าอานนท์ด้วยเศียรเกล้า
และพ่อจงกล่าวอย่างนี้ว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ขอโอกาส ขอพระผู้เป็นเจ้าอานนท์ จงอาศัยความ
อนุเคราะห์ เข้าไปหาภิกษุณีนั้น ยังสำนักของภิกษุณีนั้นด้วยเถิดบุรุษนั้นรับคำภิกษุณีนั้นแล้ว
เข้าไปหาท่านพระอานนท์ถึงที่อยู่ อภิวาทแล้วนั่งณ ที่ควรข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กราบเรียนท่าน
พระอานนท์ว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญภิกษุณีชื่อนี้กำลังอาพาธ ได้รับทุกข์ เป็นไข้หนัก นางไหว้เท้า
ของพระผู้เป็นเจ้าอานนท์ด้วยเศียรเกล้า และกล่าวอย่างนี้ว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ขอโอกาส ขอ
พระผู้เป็นเจ้าอานนท์จงอาศัยความอนุเคราะห์ เข้าไปหาภิกษุณีนั้น ยังสำนักของ นางภิกษุณีด้วยเถิด